เมนู

ทรงอนุญาตให้โดยสารเรือลำเดียวกันข้ามฟาก


ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงธรรมีกถา ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูล
นั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ในการข้ามฟาก เราอนุญาตให้ชักชวนกันแล้ว โดยสารเรือลำเดียว
กับภิกษุณีได้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้
ว่าดังนี้

พระอนุบัญญัติ


77.8. ข. อนึ่ง ภิกษุใดชักชวนกันแล้ว โดยสารเรือลำเดียว
กับภิกษุณี ขึ้นน้ำไปก็ดี ล่องน้ำไปก็ดี เว้นไว้แต่ข้ามฟาก เป็น
ปาจิตตีย์.
เรื่องภิกษุและภิกษุณีหลายรูป จบ

สิกขาบทวิภังค์


[458] บทว่า อนึ่ง . . .ใด ความว่า ผู้ใด ผู้เช่นใด. . .
บทว่า ภิกษุ ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ. . .นี้
ชื่อว่า ภิกษุ ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้ .
ผู้ชื่อว่า ภิกษุณี ได้แก่ สตรีผู้อุปสมบทแล้วในสงฆ์ 2 ฝ่าย.
บทว่า กับ คือ ร่วมกัน.
บทว่า ชักชวนวนกันแล้ว คือ ชักชวนกันว่า ไปโดยสารเรือกันเถิด
น้องหญิง ไปโดยสารเรือกันเถิดพระคุณเจ้า ไปโดยสารเรือกันเถิดเจ้าค่ะ
ไปโดยสารเรือกันเถิดจ้ะ พวกเราไปโดยสารเรือกันในวันนี้ ไปโดยสารเรือกัน
ในวันพรุ่งนี้ หรือไปโดยสารเรือกันในวันมะรืนนี้ ดังนี้ ต้องอาบัติทุกกฏ.

เมื่อภิกษุณีโดยสารแล้ว ภิกษุจึงโดยสาร ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
เมื่อภิกษุโดยสารแล้ว ภิกษุณีจึงโดยสาร ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
หรือ โดยสารทั้งสอง ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
บทว่า ขึ้นน้ำไป คือ แล่นขึ้นทวนน้ำ.
บทว่า ล่องน้ำไป คือ แล่นลงตามน้ำ.
บทว่า เว้นไว้แต่ข้ามฟาก คือ ยกเว้นแต่ข้ามฟาก.
ในหมู่บ้านกำหนดชั่วไก่บินตก ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุก ๆ ระยะบ้าน
ในป่าหาบ้านมิได้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุก ๆ กึ่งโยชน์

บทภาชนีย์


ติกปาจิตตีย์


[459] ชักชวนกันแล้ว ภิกษุสำคัญว่าชักชวนกันแล้ว โดยสารเรือ
ลำเดียวกัน ขึ้นน้ำไปก็ดี ล่องน้ำไปก็ดี เว้นไว้แต่ข้ามฟาก ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ชักชวนกันแล้ว ภิกษุสงสัย โดยสารเรือลำเดียวกัน ขึ้นน้ำไปก็ดี
ล่องน้ำไปก็ดี เว้นไว้แต่ข้ามฟาก ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
ชักชวนกัน แล้ว ภิกษุสำคัญว่าไม่ได้ชักชวนกัน โดยสารเรือลำเดียว
กัน ขึ้นน้ำไปก็ดี ล่องน้ำไปก็ดี เว้นไว้แต่ข้ามฟาก ต้องอาบัติปาจิตตีย์

ติกทุกกฏ


ภิกษุชักชวน ภิกษุณีไม่ได้ชักชวน. . .ต้องอาบัติทุกกฏ
ไม่ได้ชักชวน ภิกษุสำคัญ ว่าชักชวน. . . ต้องอาบัติทุกกฏ
ไม่ได้ชักชวน ภิกษุสงสัย . . .ต้องอาบัติทุกกฏ