เมนู

อนาปัตติวาร


[446] ภิกษุณีผู้เป็นญาติ 1 ภิกษุแลกเปลี่ยน คือ เอาจีวรมีค่าน้อย
แลกเปลี่ยนจีวรมีค่ามาก หรือเอาจีวรมีค่ามากแลกเปลี่ยนจีวรมีค่าน้อย 1
ภิกษุณีถือวิสาสะ 1 ภิกษุณีถือเอาเป็นของขอยืม 1 ภิกษุให้บริขารอื่นเว้น
จีวร 1 ภิกษุให้แก่สิกขมานา 1 ภิกษุให้สามเณรี 1 ภิกษุวิกลจริต 1 ภิกษุ
อาทิกัมมิกะ 1 ไม่ต้องอาบัติแล
โอวาทวรรค สิกขาบทที่ 5 จบ

ภิกขุนีวรรค จีวรทานสิกขาบทที่ 5


วินิจฉัย ในสิกขาบทที่ 5 พึงทราบดังนี้.
บทว่า วิสิขาย แปลว่า ในตรอก.
สองบทว่า ปิณฺฑาย จรติ มีความว่า ย่อมเที่ยวไปเนือง ๆ ด้วย
สามารถแห่งการเที่ยวไปเป็นประจำ.
บทว่า สนฺทิฏฺฐา คือ ได้เป็นเพื่อนเห็นกัน. บทที่เหลือในสิกขา
บทนี้ โดยบท มีอรรถตื้น โดยวินิจฉัย พึงทราบโดยนัยดังกล่าวแล้วในจีวร
ปฏิคคหณสิกขาบทนั้นแล พร้อมทั้งสมุฏฐานเป็นต้น. จริงอยู่ ในจีวร
ปฏิคคหณสิกขาบทนั้น ภิกษุเป็นผู้รับ ในสิกขาบทนี้ ภิกษุณีเป็นผู้รับ นี้เป็น
ความแปลกกัน. คำที่เหลือเป็นเช่นนั้นเหมือนกันแล.
จีวรทานสิกขาบทที่ 5 จบ

โอวาทวรรค สิกขาบทที่ 6


เรื่องพระอุทายี


[447] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ท่าน
พระอุทายีเป็นผู้สามารถทำจีวรกรรม ภิกษุณี รูปหนึ่งเข้าไปหาท่านแล้วพูดว่า
ดิฉันขอโอกาส เจ้าค่ะ ขอพระคุณเจ้าช่วยเย็บจีวรให้ดิฉันด้วย ฝ่ายท่านพระ
อุทายีเย็บจีวรให้นางแล้ว ทำการย้อมอย่างดี ทำบริกรรมเรียบร้อยแล้ว
เขียนรูปอัน วิจิตร ตามความติดเห็นไว้ในท่ามกลางแล้วพับเก็บไว้.
ครั้นภิกษุณีนั่นเข้าไปหาท่านพระอุทายีแล้วถามว่า จีวรนั้นเสร็จแล้ว
หรือยังเจ้าค่ะ.
พระอุทายีตอบว่า เสร็จแล้ว น้องหญิง เชิญนำจีวรผืนนี้ตามที่พับ
ไว้แล้วไปเก็บไว้ เมื่อไรภิกษุณีสงฆ์มารับโอวาท จึงต่อยห่มจีวรผืนนี้เดินตาม
มาเบื้องหลังภิกษุณีสงฆ์.
ฝ่ายภิกษุณีนั้นนำจีวรตามที่พับไว้นั้น ไปเก็บไว้ ถึงคราวที่ภิกษุณี-
สงฆ์มารับโอวาท จึงห่มจีวรผืนนั้น เดินตามมาเบื้องหลังภิกษุณีสงฆ์ ประชาชน
พากันเพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ภิกษุณีพวกนี้หมดความเกรงกลัว เป็นคน
ชั่ว ไม่มียางอาย เขียนรูปอันวิจิตรตามความเห็นไว้ที่จีวรได้.
ภิกษุณีทั้งหลายถามว่า นี่ใครทำ.
ภิกษุณีนั้น ตอบว่า พระคุณเจ้าอุทายี.
ภิกษุณีทั้งหลายพูดว่า รูปอย่างนั้นไม่งาม แม้แก่พวกนักเลงที่หมด
ความเกรงกลัว ไม่มียางอาย ไฉนจะงามแก่พระคุณเจ้าอุทายีเล่า แล้วแจ้ง
เรื่องนั้น แก่ภิกษุทั้งหลาย.