เมนู

ทรงอนุญาตให้สมมติภิกษุผู้กล่าวสอนภิกษุณี


ครั้นแล้วทรงทำธรรมีกถา รับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตให้สมมติภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 8 ดังต่อไปนี้ เป็นผู้
กล่าวสอนภิกษุณี.

องค์คุณ 8 ของภิกษุผู้กล่าวสอนภิกษุณี


1. เป็นผู้มีศีล คือสำรวมด้วยปาติโมกข์สังวรศีล สมบูรณ์ด้วยอาจาระ
และโคจรอยู่ มีปรกติเห็นภัยในโทษเพียงเล็กน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขา
บททั้งหลาย
2. เป็นพหูสูต คือทรงสุตะ เป็นผู้สั่งสมสุตะ ธรรมเหล่านั้นใดงาม
ในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้ง
อรรถทั้งพยัญชนะครบบริบูรณ์บริสุทธิ์ ธรรมเห็นปานนั้น อันภิกษุนั้นได้
สดับมาก ทรงจำไว้ได้ คล่องปากขึ้นใจ แทงตลอดด้วยปัญญา.
3. พระปาติโมกข์ทั้งสองมาแล้วด้วยดีโดยพิสดาร แก่ภิกษุนั้น คือ
ภิกษุนั้นจำแนกได้ดี คล่องแคล่วดี วินิจฉัยได้เรียบร้อยโดยสูตร โดยอนุ-
พยัญชนะ.
4. เป็นผู้มีวาจาสละสลวย ชัดเจน.
5. เป็นที่นิยมชมชอบของภิกษุณีโดยมาก.
6. เป็นผู้สามารถกล่าวสอนภิกษุณีได้.
7. เป็นผู้ไม่เคยล่วงครุธรรม กับสตรีผู้ครองผ้ากาสายะบวช เฉพาะ
พระผู้มีพระภาคพระองค์นี้ และ.
8. มีพรรษาได้ 20 หรือเกิน 20.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้สมมติภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์
คุณ 8 ประการนี้ให้เป็นผู้กล่าวสอนภิกษุณีได้.
เรื่องพระฉัพพัคคีย์ (ต่อ) จบ

สิกขาบทวิภังค์


[408] บทว่า อนึ่ง ...ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด...
บุทว่า ภิกษุ ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ ..
นี้ชื่อว่า ภิกษุ ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้
ที่ชื่อว่า ไม่ได้รับ สมมติ คือ สงฆ์ยังไม่ได้สมมติด้วยญัตติจจตุตถ-
กรรมวาจา.
ที่ชื่อว่า ภิกษุณี ได้แก่ สตรีผู้อุปสมบทแล้วในสงฆ์สองฝ่าย.
[409] บทว่า กล่าวสอน ความว่า ภิกษุกล่าวสอนด้วยครุธรรม
8 ประการ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ กล่าวสอนด้วยธรรมอย่างอื่น ต้องอาบัติทุกกฏ
กล่าวสอนภิกษุณีผู้อุปสมบทในภิกษุณีสงฆ์ฝ่ายเดียว ต้องอาบัติทุกกฏ
[410] ภิกษุผู้ได้สมมติแล้วนั้น พึงกวาดบริเวณ ตั้งน้ำฉัน น้ำใช้
ปูอาสนะไว้ แล้วชวนเพื่อนภิกษุไปนั่งอยู่ด้วย.
ภิกษุณีทั้งหลายพึงไป ณ ที่นั้น อภิวาทภิกษุนั้นแล้ว นั่ง ณ ที่สมควร
ส่วนข้างหนึ่ง
ภิกษุผู้ได้รับสมมติแล้วนั้นพึงถามว่า พวกเธอพร้อมเพรียงกันแล้ว หรือ
น้องหญิงทั้งหลาย
ถ้าพวกนางตอบว่า พวกดิฉันพร้อมเพรียงกันแล้ว เจ้าข้า