เมนู

ภูตคามวรรค สิกขาบทที่ 9


เรื่องพระฉันนะ


[397] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ
โฆสิตาราม เขตพระนครโกสัมพี ครั้งนั้น มหาอำมาตย์อุปัฏฐากของท่าน
พระฉันนะสร้างวิหารถวายท่านพระฉันนะ แต่ท่านพระฉันนะสั่งให้มุงให้โบก
ฉาบวิหารที่ทำสำเร็จแล้วบ่อยครั้ง วิหารหนักเกินไป ได้ทลายลงมา จึงท่าน
พระฉันนะมัวสาละวนเก็บรวบรวมหญ้าและไม้ ได้ทำนาข้าวเหนียวของ
พราหมณ์คนหนึ่งให้เสียหาย พราหมณ์นั้นจึงเพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า
ไฉนพระคุณเจ้าทั้งหลายจึงได้ทำนาข้าวเหนียวของข้าพเจ้าให้เสียหาย ภิกษุ
ทั้งหลายได้ยินพราหมณ์นั้นเพ่งโทษติเตียนโพนทะนาอยู่ บรรดาที่ผู้มักน้อย. . .
ต่างก็เพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ไฉนท่านพระฉันนะจึงได้ให้มุงให้โบกฉาบ
วิหารที่ทำเสร็จแล้วบ่อยครั้งเล่า วิหารหนักเกินไปได้ทลายลงมา แล้วกราบทูล
เนื้อความนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า . . .

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามท่านพระฉันนะว่า ดูก่อนฉันนะ ข่าว
ว่าเธอให้มุงให้โบกฉาบวิหารที่ทำเสร็จแล้วบ่อยครั้ง วิหารหนักเกินไปได้ทลาย
ลงมา จริงหรือ
ท่านพระฉันนะทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียน


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนโมฆบุรุษ ไฉนเธอจึง
ได้ให้มุงให้โบกฉาบวิหารที่ทำเสร็จแล้วบ่อยครั้งเล่า วิหารหนักเกินไปก็ทลาย

ลง การกระทำของเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่
เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้
ว่าดังนี้

พระบัญญัติ


68. 9. อนึ่ง ภิกษุผู้ให้ทำซึ่งวิหารใหญ่ จะวางเช็ดหน้า
เพียงไรแต่กรอบแห่งประตู จะบริกรรมช่องหน้าต่าง พึงยืนในที่
ปราศจากของสดเขียว อำนวยให้พอกได้ 2-3 ชั้น ถ้าเธออำนวย
ยิ่งว่านั้น แม้ยินในที่ปราศจากของสดเขียว ก็เป็นปาจิตตีย์
เรื่องพระฉันนะ จบ

สิกขาบทวิภังค์


[398] วิหารที่ชื่อว่า ใหญ่ ท่านว่ามีเจ้าของ.
ที่ชื่อว่า วิหาร ได้แก่ ตึกที่เขาโบกฉาบปูนไว้เฉพาะภายในก็ตาม
ที่เขาโบกฉาบปูนไว้เฉพาะภายนอกก็ตาม หรือที่เขาโบกฉาบปนไว้ทั้งภายใน
ทั้งภายนอกก็ตาม.
บทว่า ผู้ให้ทำ คือ สร้างเองก็ดี ให้ผู้อื่นสร้างก็ดี.
บทว่า เพียงไรแต่กรอบแห่งประตู คือ ชั่วหัตถบาสโดยรอบแห่ง
บานประตู
บทว่า จะวางเช็ดหน้า คือ จะวางประตู.
บทว่า จะบริกรรมช่องหน้าต่าง คือ จะบริกรรมหน้าต่างให้มี
สีเขียว สีดำ สียางไม้ ลายดอกไม้ เถาวัลย์ ฟันมังกร ดอกจอก.