เมนู

ภิกษุทั้งหลายพากันถามอย่างนี้ว่า อาวุโสทั้งหลาย พวกท่านร้องไห้
ทำไม.
พระสัตตรสวัคดีย์ตอบว่า อาวุโสทั้งหลาย พระฉัพพัคคีย์พวกนี้โกรธ
ขัดใจ ฉุดคร่าพวกข้าพเจ้าออกไปจากวิหารของสงฆ์
บรรดาภิกษุที่มักน้อย . . . ต่างก็เพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ไฉน
พระฉัพพัคคีย์จึงได้โกรธ ขัดใจ ฉุดคร่าภิกษุทั้งหลายออกจากวิหารของสงฆ์เล่า
แล้วกราบทูลเนื้อความนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า

ทรงสอบถาม


ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามพระฉัพพัคคีย์ว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ข่าวว่าพวกเธอโกรธ ขัดใจ ฉุดคร่าภิกษุทั้งหลายออกจากวิหาร
ของสงฆ์ จริงหรือ.
พระฉัพพัคคีย์ทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนโฆษบุรุษทั้งหลาย ไฉน
พวกเธอจึงได้โกรธ ขัดใจ ฉุดคร่าภิกษุทั้งหลายออกจากวิหารของสงฆ์เล่า
การกระทำของพวกเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่
เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว . . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ ขึ้นแสดงอย่างนั้น
ว่าดังนี้

พระบัญญัติ


66.7 อนึ่ง ภิกษุใด โกรธ ขัดใจ ฉุดคร่าก็ดี ให้ฉุดคร่า
ก็ดี ซึ่งภิกษุจากวิหารของสงฆ์เป็นปาจิตตีย์ .
เรื่องพระสัตตรสวัคคีย์ จบ

สิกขาบทวิภังค์


[388] บทว่า อนึ่ง .. ใด ความว่า ผู้ใด คือผู้เช่นใด.. .
บทว่า ภิกษุ ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ-
นี้ชื่อว่า ภิกษุ ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
บทว่า ซึ่งภิกษุ ได้แก่ ภิกษุอื่น.
บทว่า โกรธ ขัดใจ คือ ไม่พอใจ แค้นใจ เจ็บใจ.
[389] วิหารที่ชื่อว่า ของสงฆ์ ได้แก่วิหารที่เขาถวายแล้ว สละ
แล้วแก่สงฆ์.
บทว่า ฉุดคร่า คือ จับในห้องฉุดคร่าออกไปหน้ามุข ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์
จับที่หน้ามุขฉุดคร่าออกไปข้างนอก ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ให้ก้าวพ้นประตูแม้หลายแห่ง ด้วยประโยคเดียว ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
บทว่า ให้ฉุดคร่า ความว่า ใช้ผู้อื่น ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ใช้ครั้งเดียวให้ก้าวพ้น ประตู แม้หลายแห่ง ก็ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

บทภาชนีย์


ติกปาจิตตีย์


[390] วิหารของสงฆ์ ภิกษุสำคัญว่าของสงฆ์ โกรธ ขัดใจ ฉุดคร่าก็ดี
ให้ฉุดคร่าก็ดี ต้องอาบัติปาจิตตีย์
วิหารของสงฆ์ ภิกษุสงสัย โกรธ ขัดใจ ฉุดคร่าก็ดี ให้ฉุดคร่าก็ดี
ต้องอาบัติปาจิตตีย์
วิหารของสงฆ์ ภิกษุสำคัญว่าของบุคคล โกรธ ขัดใจ ฉุดคร่าก็ดี
ให้ฉุดคร่าก็ดี ต้องอาบัติปาจิตตีย์