เมนู

ภูตคามวรรค สิกขาบทที่ 6


เรื่องพระฉัพพัคคีย์


[383] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น
พระฉัพพัคคีย์เกียดกันที่นอนดี ๆ ไว้ให้พระเถระทั้งหลายย้ายไปเสีย แล้วคิด
กันว่า ด้วยอุบายอะไรหนอ พวกเราจะพึงอยู่จำพรรษา ณ ที่นี้แหละ แล้ว
สำเร็จการนอนแทรกแซงพระเถระทั้งหลายด้วยหมายใจว่า ผู้ใดมีความดับใจ
ผู้นั้นจักหลีกไปเอง บรรดาภิกษุที่มักน้อย . . .ต่างก็เพ่งโทษติเตียนโพนทะนา
ว่า ไฉนพระฉัพพัคคีย์จึงได้สำเร็จการนอนแทรกแซงพระเถระทั้งหลาย แล้ว
กราบทูลเนื้อความนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า. . .

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถานว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข่าวว่าพวกเธอ
สำเร็จการนอนแทรกแซงพระเถระทั้งหลาย จริงหรือ.
พระฉัพพัคคีย์ทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียน


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนโมฆบุรุษทั้งหลาย ไฉน
พวกเธอจึงได้สำเร็จการนอนแทรกแซงพระเถระทั้งหลายเล่า การกระทำของ
พวกเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อ
ความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว . . .

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้
ว่าดังนี้

พระบัญญัติ


65. 6. อนึ่ง ภิกษุใด รู้อยู่ สำเร็จการนอนแทรกแซงภิกษุ
ผู้เข้าไปก่อน ในวิหารของสงฆ์ ด้วยหมายว่า ผู้ใดมีความคับใจ
ผู้นั้นจักหลีกไปเอง ทำความหมายอย่างนี้เท่านั้นให้เป็นปัจจัย หาใช่
อย่างอื่นไม่ เป็นปาจิตตีย์.
เรื่องพระฉัพพัคคีย์ จบ

สิกขาบทวิภังค์


[384] บทว่า อนึ่ง.. .ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด.
บทว่า ภิกษุ ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ... นี้
ชื่อว่า ภิกษุ ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
วิหารที่ชื่อว่า ของสงฆ์ ได้แก่ วิหารที่เขาถวายแล้ว สละแล้วแก่สงฆ์.
ที่ชื่อว่า รู้ คือ รู้ว่าเป็นพระผู้เฒ่า รู้ว่าเป็นพระอาพาธ รู้ว่าเป็นพระที่
สงฆ์มอบวิหารให้.
บทว่า แทรกแซง คือ เข้าไปเบียดเสียด.
บทว่า สำเร็จการนอน ความว่า ภิกษุปูไว้เองก็ดี ให้คนอื่นปูไว้
ก็ดี ซึ่งที่นอน ในสถานที่ใกล้เตียงก็ดี ตั่งก็ดี ทางเข้าออกก็ดี ต้องอาบัติทุกกฏ
นั่งทับก็ดี นอนทับก็ดี ต้องอาบัติปาจิตตีย์.