เมนู

บทภาชนีย์


[187] ที่ชื่อว่า ชาติ ได้แก่ชาติ 2 คือ ชาติทราม 1 ชาติอุกฤษฏ์ 1
ที่ชื่อว่า ชาติทราม ได้แก่ชาติคนจัณฑาล ชาติคนจักสาน ชาติ
พราน ชาติคนช่างหนัง ชาติคนเทดอกไม้ นี้ชื่อว่าชาติทราม.
ที่ชื่อว่า ชาติอุกฤษฏ์ ได้แก่ชาติกษัตริย์ ชาติพราหมณ์ นี้ชื่อว่า
ชาติอุกฤษฎ์.
[188] ที่ชื่อว่า ชื่อ ได้แก่ชื่อ 2 คือ ชื่อทราม 1 ชื่ออุกฤษฎ์ 1.
ที่ชื่อว่า ชื่อทราม ได้แก่ ชื่ออวกัณณกะ ชวกัณณกะ ธนิฏฐะ
สวิฎฐกะ กุลวัฑฒกะ ก็หรือชื่อที่เขาเย้ยหยัน เหยียดหยาม เกลียดชัง ดูหมิ่น
ไม่นับถือกันในชนบทนั้น ๆ นี้ชื่อว่าชื่อทราม
ที่ชื่อว่า ชื่ออุกฤษฏ์ ได้แก่ชื่อที่เกี่ยวเนื่องด้วยพุทธะ ธัมมะ สังฆะ
ก็หรือชื่อที่เขาไม่เย้ยหยัน ไม่เหยียดหยาม ไม่เกลียดชัง ไม่ดูหมิ่น นับถือกัน
ในชนบทนั้น ๆ นี้ชื่อว่าชื่ออุกฤษฏ์.
[189] ที่ชื่อว่า โคตร ได้แก่วงศ์ตระกูล มี 2 คือ วงศ์ตระกูล
ทราม 1 วงศ์ตระกูลอุกฤษฏ์ 1.
ที่ชื่อว่า วงศ์ตระกูลทราม ได้แก่วงศ์ตระกูลภารทวาชะ ก็หรือ
วงศ์ตระกูล ที่เขาเย้ยหยัน เหยียดหยาม เกลียดชัง ดูหมิ่น ไม่นับถือกันใน
ชนบทนั้น ๆ นี้ชื่อว่าวงศ์ตระกูลทราม.
ที่ชื่อว่า วงศ์ตระกูลอุกฤษฏ์ ได้แก่วงศ์ตระกูลโคตมะ วงศ์ตระกูล
โมคคัลลานะ วงศ์ตระกูลกัจจายนะ วงศ์ตระกูลวาเสฏฐะ ก็หรือวงศ์ตระกูลที่
เขาไม่เย้ยหยัน ไม่เหยียดหยาม ไม่เกลียดชัง ไม่ดูหมิ่น นับถือกันในชนบท
นั้น ๆ นี้ชื่อว่าวงศ์ตระกูลอุกฤษฏ์.

[190] ที่ชื่อว่า การงาน ได้แก่งานที่ทำ มี 2 คือ งานทราม 1
งานอุกฤษฎ์ 1.
ที่ชื่อว่า งานทราม ได้แก่งานช่างไม้ งานเทดอกไม้ ก็หรืองานที่
เขาเย้ยหยัน เหยียดหยาม เกลียดชัง ดูหมิ่น ไม่นับถือกันในชนบทนั้น ๆ
นี้ชื่อว่างานทราม.
ที่ชื่อว่า งานอุกฤษฏ์ ได้แก่งานทำนา งานค้าขาย งานเลี้ยงโค
ก็หรืองานที่เขาไม่เย้ยหยัน ไม่เหยียดหยาม ไม่เกลียดชัง ไม่ดูหมิ่น นับถือกัน
ในชนบทนั้น ๆ นี้ชื่อว่างานอุกฤษฎ์.
[191] ที่ชื่อว่า ศิลป ได้แก่วิชาการช่าง มี 2 คือ วิชาการ
ช่างทราม 1 วิชาการช่างอุกฤษฏ์ 1.
ที่ชื่อว่า วิชาการช่างทราม ได้แก่ วิชาการช่างจักสาน วิชาการ
ช่างหม้อ วิชาการช่างหูก วิชาการช่างหนัง วิชาการช่างกัลบก ก็หรือวิชาการ
ช่างที่เขาเย้ยหยัน เหยียดหยาม เกลียดชัง ดูหมิ่น ไม่นับถือกันในชนบท
นั้น ๆ นี้ชื่อว่าวิชาการช่างทราม.
ที่ชื่อว่า วิชาการช่างอุกฤษฏ์ ได้แก่วิชาการช่างนับ วิชาการช่าง
คำนวณ วิชาการช่างเขียน ก็หรือวิชาการช่างที่เขาไม่เย้ยหยัน ไม่เหยียดหยาม
ไม่เกลียดชัง ไม่ดูหมิ่น นับถือกันในชนบทนั้น ๆ นี้ชื่อว่าวิชาการช่างอุกฤษฏ์.
[192] โรค แม้ทั้งปวง ชื่อว่าทราม แต่โรคเบาหวาน ชื่อว่า
โรคอุกฤษฏ์.
[193] ที่ชื่อว่า รูปพรรณ ได้แก่รูปพรรณมี 2 คือ รูปพรรณ
ทราม 1 รูปพรรณอุกฤษฏ์ 1.

ที่ชื่อว่า รูปพรรณทราม คือ สูงเกินไป ต่ำเกินไป ดำเกินไป
ขาวเกินไป นี้ชื่อว่ารูปพรรณทราม.
ที่ชื่อว่า รูปพรรณอุกฤษฏ์ คือไม่สูงนัก ไม่ต่ำนัก ไม่ดำนัก
ไม่ขาวนัก นี้ชื่อว่ารูปพรรณอุกฤษฎ์.
[194] กิเลส แม้ทั้งปวง ชื่อว่าทราม.
[195] อาบัติ แม้ทั้งปวง ชื่อว่าทราม แต่โสตาบัติ สมาบัติ ชื่อว่า
อาบัติอุกฤษฎ์.
[196] ที่ชื่อว่า คำด่า ได้แก่คำด่า มี 2 คือ คำด่าทราม 1 คำด่า
อุกฤษฏ์ 1.
ที่ชื่อว่า คำด่าทราม ได้แก่คำด่าว่า เป็นอูฐ เป็นแพะ เป็นโค
เป็นลา เป็นสัตว์ดิรัจฉาน เป็นสัตว์นรก สุคติของท่านไม่มี ท่านต้องหวัง
ได้แต่ทุคติ คำด่าที่เกี่ยวด้วย ยะอักษร ภะอักษร หรือนิมิตของชายและนิมิต
ของหญิง นี้ชื่อว่าคำด่าทราม.
ที่ชื่อว่า คำด่าอุกฤษฏ์ ได้แก่ คำคำว่า เป็นบัณฑิต เป็นคนฉลาด
เป็นนักปราชญ์ เป็นพหูสูต เป็นธรรมกถึก ทุคติของท่านไม่มี ท่านต้อง
หวังได้แต่สุคติ นี้ชื่อว่าคำด่าอุกฤษฏ์.

อุปสัมบันด่าอุปสัมบัน
พูดกดกระทบชาติ


[197] อุปสัมบันปรารถนาจะด่า ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ พูดกะอุปสัมบันมีชาติทราม ด้วยกล่าวกระทบชาติ
ทราม คือ พูดกะอุปสัมบันชาติคนจัณฑาล...ชาติคนจักสาน...ชาติพราน
...ชาติคนช่างหนัง...ชาติคนเทดอกไม้ ว่าเป็นชาติคนจัณฑาล ว่าเป็นชาติ