เมนู

บ้าง ชื่อบ้าง วงศ์ตระกูลบ้าง การงานบ้าง ศิลปบ้าง โรคบ้าง รูปพรรณบ้าง
กิเลสบ้าง อาบัติบ้าง คำด่าที่ทรามบ้าง.
พระฉัพพัคคีย์ทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียน


พระผู้มีพร ะภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนโมฆบุรุษทั้งหลาย ไฉน
พวกเธอจึงได้ทะเลาะกับพวกภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก กล่าวเสียดแทงพวกภิกษุผู้มี
ศีลเป็นที่รัก คือด่าว่า สบประมาท กระทบกำเนิดบ้าง ชื่อบ้าง วงศ์ตระกูลบ้าง
การงานบ้าง ศิลปบ้าง โรคบ้าง รูปพรรณบ้าง กิเลสบ้าง อาบัติบ้าง คำด่า
ที่ทรามบ้าง การกระทำของพวกเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชน
ที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว . . . ครั้นแล้ว
ทรงกระทำธรรมีกถารับส่งกะภิกษุทั้งหลายดังต่อไปนี้.

เรื่องโคนันทิวิสาล


[183] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว พราหมณ์คนหนึ่ง
ในเมื่องตักกศิลา มีโคถึกตัวหนึ่งชื่อนันทิวิสาล ครั้งนั้นโคถึกชื่อนันทิวิสาล
ได้กล่าวคำนี้กะพราหมณ์นั้นว่า ข้าแต่ท่านพราหมณ์ ท่านจงไปพนันกับเศรษฐี
ด้วยทรัพย์ 1,000 กษาปณ์ว่า โคถึกของข้าพเจ้าจักลากเกวียน 100 เล่มที่ผูก
เนื่องกันไปได้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จึงพราหมณ์นั้นได้ทำการพนันกับเศรษฐีด้วย
ทรัพย์ 1,000 กษาปณ์ว่า โคถึกของข้าพเจ้าจักลากเกวียน 1,000 เล่มที่ผูกเนื่อง
กันไปได้.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้นแล้วพราหมณ์นั้นได้ผูกเกวียน 1,000 เล่มให้
เนื่องกัน เทียมโคถึกนันทิวิสาลเสร็จแล้ว ได้กล่าวคำนี้ว่า จงฉุดไป เจ้าโคโกง
จงลากไป เจ้าโคโกง.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้น โคถึกนันทิวิสาลได้ยืนอยู่ในที่เดิมนั่นเอง.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้นนั้นแล พราหมณ์นั้นแพ้พนัน เสียทรัพย์
1,000 กษาปณ์แล้วได้ซบเซา.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ต่อมา โคถึกนันทิวิสาลได้ถามพราหมณ์นั้นว่า
ข้าแต่ท่านพราหมณ์ เหตุไรท่านจึงซบเซา.
พ. ก็เพราะเจ้าทำให้เราต้องแพ้ เสียทรัพย์ไป 1,000 กษาปณ์ นั่น
ละซิ เจ้าตัวดี.
น. ข้าแต่ท่านพราหมณ์ ก็ท่านมาเรียกข้าพเจ้าผู้ไม่โกง ด้วยถ้อยคำว่า
โกงทำไมเล่า ขอท่านจงไปอีกครั้งหนึ่ง จงพนันกับเศรษฐีด้วยทรัพย์ 2,000
กษาปณ์ว่า โคถึกของข้าพเจ้า จักลากเกวียน 100 เล่มที่ผูกเนื่องกันไปได้
แต่อย่าเรียกข้าพเจ้าผู้ไม่โกง ด้วยถ้อยคำว่าโกง.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทันใดนั้นแล พราหมณ์นั้นได้พนันกับเศรษฐี
ด้วยทรัพย์ 2,000 กษาปณ์ว่า โคถึกของข้าพเจ้าจักลากเกวียน 100 เล่มที่ผูก
เนื่องกันไปได้ ครั้นแล้วได้ผูกเกวียน 100 เล่มให้เนื่องกัน เทียมโคถึก
นันทิวิสาลแล้ว ได้กล่าวคำนี้ว่า เชิญฉุดไปเถิด พ่อรูปงาม เชิญลากไปเถิด
พ่อรูปงาม.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล โคถึกนันทิวิสาลได้ลากเกวียน 100
เล่ม ซึ่งผูกเนื่องกันไปได้แล้ว.

[184] บุคคลควรกล่าวแต่ถ้อยคำ
เป็นที่จำเริญใจ ไม่ควรกล่าวถ้อยคำอันไม่
เป็นที่จำเริญใจ ในกาลไหน ๆ เพราะเมื่อ
พราหมณ์กล่าวถ้อยคำเป็นที่จำเริญใจ โคถึก
นันทิวิสาลได้ลากเกวียนหนักไป ยังพราหมณ์
นั้นให้ได้ทรัพย์ และได้ดีใจเพราะพราหมณ์
ได้ทรัพย์โดยการกระทำของตนนั้นแล.

[185] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม้ครั้งนั้น คำด่า คำสบประมาทก็
มิได้เป็นที่พอใจของเรา ไฉน ในบัดนี้ คำด่า คำสบประมาท จักเป็นที่
พอใจเล่า การกระทำของพวกเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชน
ที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว . . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้น แสดงอย่างนี้ว่า
ดังนี้:-

พระบัญญัติ


51.2. เป็นปาจิตตีย์ ในเพราะโอมสวาท.
เรื่องพระฉัพพัคคีย์ จบ

สิกขาบทวิภังค์


[186] ที่ชื่อว่า โอมสวาท ได้แก่คำพูดเสียดแทงให้เจ็บใจด้วย
อาการ 10 อย่าง คือ ชาติ 1 ชื่อ 1 โคตร 1 การงาน 1 ศิลป 1 โรค 1
รูปพรรณ 1 กิเลส 1 อาบัติ 1 คำด่า 1.