เมนู

บอกจิตเปิดจากโมหะและจากโทสะ


...จิตของข้าพเจ้า เปิดจากโมหะ และจิตของข้าพเจ้าเปิดจากโทสะ
ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์

บอกรวมทุกอย่าง


[334] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ข้าพเจ้าเข้าแล้ว
เข้าอยู่ เข้าได้แล้ว เป็นผู้ได้ เป็นผู้ชำนาญ ทำให้แจ้งแล้ว ซึ่งปฐมฌาน
...ทุติยฌาน. . .ตติยฌาน.. .จตุตถฌาน...สุญญตวิโมกข์... อนิมิตตวิโมกข์
...อัปปณิหิตวิโมกข์ ... สุญญตสมาธิ . ..อนิมิตตสมาธิ ...อัปปณิหิตสมาธิ
...สุญญตสมาบัติ . . .อนิมิตตสมาบัติ . ..อัปปณิหิตสมาบัติ .. .วิชชา 3. . .
สติปัฏฐาน 4 . . . สัมมัปปธาน 4. . . อิทธิบาท 4. ..อินทรีย์ 5. ..พละ 5 . . .
โพชฌงค์ 7 . . . อริยมรรคมีองค์ 8 . . . โสดาปัตติผล . . . สกทาคามิผล . . .
อนาคามิผล . . . อรหัตผล . . . ราคะข้าพเจ้าสละแล้ว ตายแล้ว ปล่อยแล้ว
สละแล้ว สลัดแล้ว เพิกแล้ว ถอนแล้ว โทสะข้าพเจ้าสละแล้ว . . . โมหะ
ข้าพเจ้าสละแล้ว . . . จิตของข้าพเจ้าเปิดจากราคะ . . . จากโทสะ . . . และจาก
โมหะ ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

วัตถุกามวารกถา
ประสงค์จะบอกเข้าปฐมฌาน


[335] บทว่า บอก คือ ภิกษุประสงค์จะบอกแก่อนุปสัมบันว่า
ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานแล้ว แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าทุติยฌานแล้ว ดังนี้ เมื่อเขา
เข้าใจ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.

. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าตติยฌานแล้ว ดังนี้ เมื่อเขาเข้าใจ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าจตุตถฌานแล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าสุญญตวิโมกข์แล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าอนิมิตตวิโมกข์แล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าอัปปณิหิตวิโมกข์แล้ว . . . เรื่อเขาเข้าใจ
ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าสุญญตสมาธิ แล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าอนิมิตตสมาธิแล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าอัปปณิหิตสมาธิแล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ
ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าสุญญตสมาบัติแล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าอนิมิตตสมาบัติแล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ
ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าอัปปณิหิตสมาบัติแล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ
ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.

. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าวิชชา 3 แล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าสติปัฏฐาน 4 แล้ว . . .เมื่อเขาเข้าใจ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าสัมมัปปธาน 4 แล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ
ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าอิทธิบาท 4 แล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าอินทรีย์ 5 แล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าพละ 5 แล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าโพชฌงค์ 7 แล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าอริยมรรคมีองค์ 8 แล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ
ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าโสดาปัตติผลแล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าสกทาคามิผลแล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าอนาคามิผลแล้ว. . .เมื่อเขาเข้าใจ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.

. . .แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าอรหัตผลแล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า ราคะข้าพเจ้าสละแล้ว ตายแล้ว ปล่อยแล้ว ละแล้ว
สลัดแล้ว เพิกแล้ว ถอนแล้ว ดังนี้ เมื่อเขาเข้าใจ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เมื่อ
ไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า โทสะข้าพเจ้าสละแล้ว . . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทกคน.
. . .แต่บอกว่า โมหะข้าพเจ้าสละแล้ว . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ
. . .แต่บอกว่า จิตของข้าพเจ้าเปิดจากราคะ . . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ
. . .แต่บอกว่า จิตของข้าพเจ้าเปิดจากโทสะ . . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .แต่บอกว่า จิตของข้าพเจ้าเปิดจากโมหะ . . . เมื่อเขาเข้าใจ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ.

ประสงค์จะบอกเข้าทุติฌาน


[336] บทว่า บอก คือ ภิกษุประสงค์จะบอกแก่อนุปสัมบันว่า
ข้าพเจ้าเข้าทุติยฌานแล้ว แต่บอกว่า ข้าพเจ้าเข้าตติยฌานแล้ว . . . เมื่อเขา
เข้าใจ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เมื่อไม่เข้าใจ ต้องอาบัติทุกกฏ
ฯ ล ฯ ฯ ล ฯ ฯ ล ฯ *
* ที่ ฯ ล ฯ ฯ ล ฯ ไว้นี้หมายถึงว่า ประสงค์จะบอกว่า เข้าทุติยฌาน แต่บอกว่า
เข้าจตุตถฌาน เข้าวิโมกข์ เข้าสมาธิ เข้าสมาบัติ ตลอดถึงจิตเปิดจากโมหะ .