เมนู

. . .เป็นผู้เข้าสกทาคามิผลแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้สกทาคามิผล . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในสกทาคามิผล. . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .สกทาคามิผล ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

บอกอนาคามิผล


. . .ข้าพเจ้าเข้าอนาคามิผลแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าอนาคามิผลอยู่ . .. ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าอนาคามิผลแล้ว . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้อนาคามิผล . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในอนาคามิผล . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์
. . .อนาคามิผล ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

บอกอรหัตผล


. . .เข้าอรหัตผลแล้ว . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าอรหัตผลอยู่ . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าอรหัตผลแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในอรหัตผล . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์
. . .อรหัตผลข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

บอกสละ ราคะ โทสะ โมหะ


[319] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสันบันว่า ราคะข้าพเจ้า
สละแล้ว ตายแล้ว พ้นแล้ว ละแล้ว สลัดแล้ว เพิกแล้ว ถอนแล้ว ดังนี้
ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

. . .โทสะ ข้าพเจ้าสละแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .โมหะ ข้าพเจ้าสละแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .บอกจิตเปิดจากราคะ โทสะ โมหะ
[320] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบัน ว่า จิตของข้าพเจ้า
เปิดจากราคะ ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .จิตของข้าพเจ้าเปิดจากโทสะ ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .จิตของข้าพเจ้าเปิดจากโมหะ ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

บอกเข้าปฐมฌานในสุญญาคาร


[321] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ข้าพเจ้าเข้า
ปฐมฌานในสุญญาคารแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานในสุญญาคารอยู่ . ..ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานในสุญญาคารแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานในสุญญาคาร . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานในสุญญาคาร . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานในสุญญาคารข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้วะ . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

บอกเข้าทุติยฌานในสุญญาคาร


. . .ข้าพเจ้าเข้าทุติยฌานในสุญญาคารแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าทุติยฌานในสุญญาคารอยู่ . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าทุติยฌานในสุญญาคารแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ทุติยฌานในสุญญาคาร . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญทุติยฌานในสุญญาคาร . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ทุติยฌานในสุญญาคารข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว. . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.