เมนู

บทภาชนีย์


[307] ที่ชื่อว่า อุตริมนุสธรรม ได้ แก่ ฌาน วิโมกข์
สมาธิ สมาบัติ ฌาณทัสสนะ การทำมรรคให้เกิด การทำผลให้แจ้ง
การละกิเลส ความเปิดจิต ความยินดียิ่งในเรือนอันว่างเปล่า.
[308] ที่ชื่อว่า ฌาน ได้แก่ ปฐมฌาน ทุติยฌาน ติยฌาน
จตุตถฌาน.
ที่ชื่อว่า วิโมกข์ ได้แก่ สุญญตวิโมกข์ อนิมิตตวิโมกข์ อัปปณิ-
หิตวิโมกข์.
ที่ชื่อว่า สมาธิ ได้แก่ สุญญตสมาธิ อนิมิตตสมาธิ อัปปณิหิตสมาธิ.
ที่ชื่อว่า สมาบัติ ได้แก่ สุญญตสมาบัติ อนิมิตตสมาบัติ อัปปณิหิต-
สมาบัติ
ที่ชื่อว่า ฌาณ ได้แก่ วิชชา 3.
ที่ชื่อว่า การทำมรรคให้เกิด ได้แก่ สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4
อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 อริยมรรคมีองค์ 8.
ที่ชื่อว่า การทำผลให้แจ้ง ได้แก่ การทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล
. . .สกทาคามิผล . . . อนาคามิผล . ..อรหัตผล.
ที่ชื่อว่า การละกิเลส ได้แก่ การละราคะ . . .โทสะ. . . . โมหะ.
ที่ชื่อว่า ความเปิดจิต ได้แก่ ความเปิดจิตจากราคะ ความเปิดจิต
จากโทสะ ความเปิดจิตจากโมหะ.
ที่ชื่อว่า ความยินดียิ่งในเรือนอันว่างเปล่า ได้แก่ ความยินดียิ่ง
ในเรือนอันว่างเปล่าด้วยปฐมฌาน . . . ด้วยทุติยฌาน .. . ด้วยคติยฌาน ... ด้วย
จตุตถฌาน.

บอกปฐมฌาน


[309] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ข้าพเจ้าเข้า
ปฐมฌานแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานอยู่
ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ข้าพเจ้าเป็นผู้เข้า
ปฐมฌานแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ข้าพเจ้าเป็นผู้ได้
ปฐมฌาน ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ข้าพเจ้าเป็นผู้ชำนาญ
ในปฐมฌาน ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ปฐมฌานข้าพเจ้าทำ
ให้แจ้งแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
บอกทุติยฌาน
[310] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ข้าพเจ้าเข้า
ทุติยฌานแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
. . .ข้าพเจ้าเข้าทุติยฌานอยู่ ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ข้าพเจ้าเป็นผู้เข้าทุติยฌานแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ข้าพเจ้าเป็นผู้ได้ทุติยฌาน ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ข้าพเจ้าเป็นผู้ชำนาญในทุติยฌาน ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
. . .ทุติยฌานข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.