เมนู

ครั้นสละแล้วพึงแสดงอาบัติ ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงรับอาบัติ
พึงคืนจีวรที่เสียสละให้ด้วยญัตติกรรมวาจา ว่าดังนี้:-
ท่านทั้งหลาย ขอจงฟังข้าพเจ้า จีวรผืนนี้ของภิกษุมีชื่อนี้ เป็น
ของจำจะสละ เธอสละแล้วแก่ท่านทั้งหลาย ถ้าความพร้อมพรั่งของ
ท่านทั้งหลายถึงที่แล้ว ท่านทั้งหลายพึงให้จีวรผืนนี้แก่ภิกษุมีชื่อนี้.

เสียสละแก่บุคคล


ภิกษุรูปนั้นพึงเข้าไปหาภิกษุรูปหนึ่ง ห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า
นั่งกระโหย่งเท้าประณมมือ กล่าวอย่างนี้ว่า
ท่านเจ้าข้า จีวรผืนนี้ ของข้าพเจ้า ให้สำเร็จด้วยทวงเกิน 3 ครั้ง
ด้วยยืนเกิน 6 ครั้ง เป็นของจำจะสละ ข้าพเจ้าสละจีวรผืนนี้แก่ท่าน
ดังนี้.
ครั้นสละแล้วพึงแสดงอาบัติ ภิกษุผู้รับเสียสละนั้น พึงรับอาบัติ
พึงคืนจีวรที่เสียสละแล้วให้ด้วยคำว่า ข้าพเจ้าให้จีวรผืนนี้แก่ท่าน ดังนี้
ในประโยคว่า ถ้าให้สำเร็จไม่ได้ พึงไปเองก็ได้ ส่งทูตไปก็ได้
ในสำนักที่ส่งทรัพย์สำหรับจ่ายจีวรมาเพื่อเธอ บอกว่า ท่านส่งทรัพย์
สำหรับจ่ายจีวรไปเฉพาะภิกษุใด ทรัพย์นั้นหาสำเร็จประโยชน์น้อย
หนึ่งแก่ภิกษุนั้นไม่ ท่านจงทวงเอาทรัพย์ของท่านคืน ทรัพย์ของท่าน
อย่าได้ฉิบหายเสียเลย นี้เป็นสามีจิกรรมในเรื่องนั้น ดังนี้ ความว่า
นี้เป็นความถูกยิ่งในเรื่องนั้น.

บทภาชนีย์


ติกนิสสัคคิยปาจิตตีย์


[72] ทวงเกิน 3 ครั้ง ยืนเกิน 6 ครั้ง ภิกษุสำคัญว่าเกิน ยัง
จีวรนั้นให้สำเร็จ เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ทวงเกิน 3 ครั้ง ยืนเกิน 6 ครั้ง ภิกษุสงสัย ยังจีวรนั้นให้สำเร็จ
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ทวงเกิน 3 ครั้ง ยืนเกิน 6 ครั้ง ภิกษุสำคัญว่าไม่ถึง ยังจีวรนั้น
ให้สำเร็จ เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์

ทุกกฏ


ทวงไม่ถึง 3 ครั้ง ยืนไม่ถึง 6 ครั้ง ภิกษุสำคัญว่าเกิน ยังจีวรนั้น
ให้สำเร็จ ต้องอาบัติทุกกฏ
ทวงไม่ถึง 3 ครั้ง ยืนไม่ถึง 6 ครั้ง ภิกษุสงสัย ยังจีวรนั้นให้สำเร็จ
ต้องอาบัติทุกกฏ

ไม่ต้องอาบัติ


ทวงไม่ถึง 3 ครั้ง ยืนไม่ถึง 6 ครั้ง ภิกษุสำคัญว่าไม่ถึง ยังจีวร
นั้นให้สำเร็จ ไม่ต้องอาบัติ.

อนาปัตติวาร


[73] ภิกษุทวง 3 ครั้ง ยืน 6 ครั้ง ภิกษุทวงไม่ถึง 3 ครั้ง
ยืนไม่ถึง 6 ครั้ง 1 ภิกษุไม่ได้ทวง ไวยาจักรถวายเอง 1 เจ้าของทวง