เมนู

ไม่ต้องอาบัติ


เจ้าเรือนเป็นญาติ ภิกษุสำคัญว่า เป็นญาติ...ไม่ต้องอาบัติ.

อนาปัตติวาร


[69] ภิกษุขอต่อเจ้าเรือนผู้เป็นญาติ 1 ภิกษุขอต่อเจ้าเรือนผู้
ปวารณาไว้ 1 ภิกษุขอเพื่อประโยชน์ของภิกษุอื่น 1 ภิกษุจ่ายมาด้วย
ทรัพย์ของตน 1 เจ้าเรือนใคร่จะจ่ายจีวรมีราคาแพง ภิกษุให้เขาจ่ายจีวร
มีราคาถูก 1 ภิกษุวิกลจริต 1 ภิกษุอาทิกัมมิกะ 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
จีวรวรรค สิกขาบทที่ 9 จบ

จีวรวรรคที่ 1 สิกขาบทที่ 9


พรรณนาทุติยอุปักขฏสิกขาบท


บัณฑิตพึงทราบเนื้อความในทุติยอุปักขฏสิกขาบทโดยนัยนี้แล.
เพราะว่า สิกขาบทแรกนั้น เช่นเดียวกับอนุปัตติแห่งสิกขาบทที่สองนี้.
ในสิกขาบทก่อน ภิกษุเพียงทำความเบียดเบียนแก่คน ๆ เดียวเท่านั้น ใน
สิกขาบทที่ 2 กระทำแก่คน 2 คน. นี้เป็นความแปลกกันในสิกขาบทนี้.
คำที่เหลือทั้งหมดเช่นเดียวกับสิกขาบทก่อนทั้งนั้น. และผู้ศึกษาพึงทราบว่า
เป็นอาบัติ แม้แก่ภิกษุผู้กระทำความเบียดเบียนแก่คนมากคนถือเอา เหมือน
ทำแก่คน 2 คน ถือเอาฉะนั้น.
พรรณนาทุติยอุปักขฏสิกขาบทที่ 9 จบ

จีวรวรรค สิกขาบทที่ 10
เรื่องพระอุปนันทศากยบุตร


[70] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น
มหาอำมาตย์ผู้อุปัฏฐากของท่านพระอุปนันทศากยบุตร ส่งทรัพย์สำหรับ
จ่ายจีวรไปกับทูต ถวายแก่ท่านพระอุปนันทศากยบุตรสั่งว่า เจ้าจงจ่าย
จีวรด้วยทรัพย์จ่ายจีวรนี้ แล้วให้ท่านพระอุปนันทะครองจีวร จึงทูตนั้น
เข้าไปหาท่านพระอุปนันทศากยบุตร ครั้นแล้วได้กล่าวคำนี้กะท่านพระ-
อุปนันทศากยบุตรว่า ท่านเจ้าข้า ทรัพย์สำหรับจ่ายจีวรนี้แล กระผมนำ
มาถวายเฉพาะพระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงรับทรัพย์สำหรับจ่ายจีวร
เมื่อทูลนั้นกล่าวอย่างนี้แล้ว ท่านพระอุปนันทศากยบุตรได้ตอบ
คำนี้ กะทูตนั้นว่า พวกเรารับทรัพย์สำหรับจ่ายจีวรไม่ได้ รับได้แต่จีวร
อันเป็นของควรโดยกาลเท่านั้น
เมื่อท่านตอบอย่างนั้นแล้ว ทูตนั้นได้ถามท่านว่า ก็ใคร ๆ ผู้เป็น
ไวยาจักรของท่านมีหรือ
ขณะนั้น อุบาสกผู้หนึ่งได้เดินทางไปสู่อารามด้วยกรณียะบางอย่าง
จึงท่านพระอุปนันทศากยบุตรได้กล่าวคำนี้กะทูตนั้นว่า อุบาสกนั้นแล
เป็นไวยาจักรของภิกษุทั้งหลาย
จึงทูตนั้น สั่งอุบาสกนั้นให้เข้าใจแล้ว กลับเข้าไปหาท่านพระ-
อุปนันทศากยบุตรแจ้งว่า ท่านเจ้าข้า อุบาสกที่พระคุณเจ้าแสดงเป็น
ไวยาวัจกรนั้น กระผมสั่งให้เข้าใจแล้ว ขอพระคุณเจ้าจงเข้าไปหา เขา
จักให้ท่านครองจีวรตามกาล