เมนู

อันจะบังเกิดในปัจจุบัน 1 เพื่อกำจัดอาสวะอันจะบังเกิดในอนาคต
เพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส 1 เพื่อความเลื่อมใสยิ่ง
ของชุนชนที่เลื่อมใสแล้ว 1 เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม 1
เพื่อถือตามพระวินัย 1
ก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้:-

พระบัญญัติ


26. 7. ถ้าพ่อเจ้าเรือนก็ดี แม่เจ้าเรือนก็ดี ผู้มิใช่ญาติปวารณา
ต่อภิกษุนั้น ด้วยจีวรเป็นอันมาก เพื่อนำไปได้ตามใจ ภิกษุนั้นพึง
ยินดีจีวร มีอุตราสงค์กับอันตรวาสกเป็นอย่างมาก จากจีวรเหล่านั้น ถ้า
ยินดียิ่งกว่านั้น เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์.
เรื่องพระฉัพพัคคีย์ จบ

สิกขาบทวิภังค์


[59] บทว่า ถ้า...ต่อภิกษุนั้น ได้แก่ ภิกษุผู้มีจีวรถูกชิงไป.
ที่ชื่อว่า ผู้มิใช่ญาติ คือไม่ใช่คนเนื่องถึงกันทางมารดาก็ดี ทาง
บิดาก็ดี ตลอด 7 ชั่วอายุของบุรพชนก.
ที่ชื่อว่า พ่อเจ้าเรือน ได้แก่ บุรุษผู้ครอบครองเรือน.
ที่ชื่อว่า แม่เจ้าเรือน ได้แก่ สตรีผู้ครอบครองเรือน.
บทว่า ด้วยจีวรเป็นอันมาก คือ จีวรหลายผืน.

บทว่า ปวารณา...เพื่อนำไปได้ตามใจ คือ ปวารณาว่า ท่านต้อง
การจีวรเท่าใด ก็จงรับไปเท่านั้นเถิด
คำว่า ภิกษุนั้นพึงยินดีจีวรมีอุตราสงค์กับอันตรวาสกเป็นอย่าง
มาก จากจีวรเหล่านั้น ความว่า ถ้าจีวรหาย 3 ผืน เธอพึงยินดีเพียง
2 ผืน หาย 2 ผืน พึงยินดีเพียงผืนเดียว หายผืนเดียวอย่าพึงยินดีเลย
คำว่า ถ้ายินดียิ่งกว่านั้น ความว่า ขอมาได้มากกว่านั้น เป็น
ทุกกฏในประโยคที่ยินดีเกินกำหนด เป็นนิสสัคคีย์ด้วยได้จีวรมา ต้องเสีย
สละแก่สงฆ์ คณะ หรือบุคคล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แล ภิกษุพึงเสียสละจีวรนั้น อย่างนี้:-

วิธีเสียสละ
เสียสละแก่สงฆ์


ภิกษุรูปนั้นพึงเข้าไปหาสงฆ์ ห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า กราบเท้า
ภิกษุผู้แก่พรรษากว่า นั่งกระโหย่งเท้าประนมมือ กล่าวอย่างนี้ว่า
ท่านเจ้าข้า จีวรผืนนี้ของข้าพเจ้า ขอแล้วเกินกำหนดต่อเจ้า
เรือนผู้มิใช่ญาติ เป็นของจำจะสละ ข้าพเจ้าสละจีวรผืนนี้แก่สงฆ์
ครั้นสละแล้วพึงแสดงอาบัติ ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงรับอาบัติ
พึงคืนจีวรที่เสียสละให้ด้วยญัตติกรรมวาจา ว่าดังนี้:-
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า จีวรผืนนี้ของภิกษุมีชื่อนี้
เป็นของจำจะสละ เธอสละแล้วแก่สงฆ์ ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์
ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงให้จีวรผืนนี้แก่ภิกษุมีชื่อนี้