ทั้งหลายได้ยินภิกษุณีเหล่านั้น เพ่งโทษติเตียนโพนทะนาอยู่ จึงกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงอนุญาตให้รับจีวรแลกเปลี่ยน
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงกระทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุ
เป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้รับจีวรแลกเปลี่ยนกันของ
สหธรรมิกทั้ง 5 คือ ภิกษุ ภิกษุณี สิกขมานา สามเณร สามเณรี
เราอนุญาตให้รับจีวรแลกเปลี่ยนกันของสหธรรมิกทั้ง 5 นี้
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง พวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้:-
พระอนุบัญญัติ
34. 5. ก. อนึ่ง ภิกษุใดรับจีวรจากมือภิกษุณีผู้มิใช่ญาติ
เว้นไว้แต่ของแลกเปลี่ยน เป็นนิสสัคคีย์ปาจิตตีย์.
เรื่องแลกเปลี่ยน จบ
สิกขาบทวิภังค์
[49] บทว่า อนึ่ง...ใด ความว่า ผู้ใด คือผู้เช่นใด มีการงาน
อย่างใด มีชาติอย่างใด มีชื่ออย่างใด มีโคตรอย่างใด มีปกติอย่างใด
มีธรรมเครื่องอยู่อย่างใด มีอารมณ์อย่างใด เป็นเถระก็ตาม เป็นนวกะ
ก็ตาม เป็นมัชฌิมะก็ตาม นี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า อนึ่ง...ใด.