เมนู

ไม่เป็นอาบัติแก่ภิกษุบ้า. พระอุทายีเถระเป็นต้นบัญญัติ ในสิกขาบทนี้
ไม่เป็นอาบัติแก่ท่านผู้เป็นต้นบัญญัติฉะนี้แล.
บทภาชนียวรรณา จบ

บรรดาปกิณกะมีสมุฏฐานเป็นต้น สิกขาบทนี้ มีสมุฏฐาน 3 ย่อม
เกิดขึ้นทางกายกับจิต 1 ทางวาจากับจิต 1 ทางกายวาจากับจิต 1 เป็น
กิริยา สัญญาวิโมกข์ สจิตตกะ โลกวัชชะ กายกรรม วจีกรรม อกุศลจิต
มีเวทนา 2 ฉะนี้แล.

วินีตวัตถุในตติยสังฆาทิเสส


บรรดาวินีตวัตถุ พึงทราบวินิจฉัยในเรื่องโลหิต ดังนี้:- ภิกษุนั้น
กล่าวหมายถึงนิมิตที่มีโลหิตของหญิง, หญิงนอกนี้ไม่รู้; เพราะฉะนั้น
จึงเป็นทุกกฏ.
บทว่า กกฺกสโลมํ แปลว่า มีขนมากด้วยขนสั้น ๆ.
บทว่า อากิณฺณโลมํ แปลว่า มีขนรกรุงรัง.
บทว่า ขรโลมํ แปลว่า มีขนกระด้าง.
บทว่า ทีฆโลมํ แปลว่า มีเส้นขนไม่สั้น (ขนยาว). คำทั้งหมด
ภิกษุเหล่านั้นกล่าวหมายถึงนิมิตของหญิงทั้งนั้น.
ภิกษุนั้นกล่าวหมายถึงอสัทธรรมว่า เธอหว่านนาแล้วหรือ ? หญิง
นั้นไม่เข้าใจ จึงกล่าวว่า (หว่านแล้ว) แต่ยังไม่ได้กลบเจ้าค่ะ !