เมนู

เรื่องพระอัชชุกะเมืองเวสาลี


[173] ก็โดยสมัยนั้นแล คหบดีอุปัฏฐากของท่านพระอัชชุกะใน
เมืองเวสาลี มีเด็กชาย 2 คน คือบุตรชายคนหนึ่ง หลานชายคนหนึ่ง ครั้นนั้น
ท่านคหบดีได้สั่งคำนี้ไว้กะท่านพระอัชชุกะว่า พระคุณเจ้าข้า บรรดาเด็ก 2 คน
นี้ เด็กคนใดมีศรัทธาเลื่อมใส พระคุณเจ้าพึงบอกสถานที่ฝังทรัพย์นี้แก่เด็ก
คนนั้น ดังนี้แล้วได้ถึงแก่กรรม ครั้นสมัยต่อมา หลานชายของคหบดีนั้น
เป็นผู้มีศรัทธาเลื่อมใส จึงท่านพระอัชชุกะได้บอกสถานที่ฝังทรัพย์นั้นแก่เด็ก
หลานชาย ๆ นั้นได้รวบรวมทรัพย์ และเริ่มบำเพ็ญทานด้วยทรัพย์สมบัติ
นั้นแล้ว.
ภายหลัง บุตรชายคหบดีนั้น ได้เรียนถามเรื่องนี้กะท่านพระอานนท์ว่า
ข้าแต่ท่านพระอานนท์ ใครหนอเป็นทายาทของบิดา บุตรชายหรือหลานชาย.
ท่านพระอานนท์ตอบว่า คุณ ธรรมดาบุตรชายเป็นทายาทของบิดา.
บุ. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ พระคุณเจ้าอัชชุกะนี้ ได้บอกทรัพย์สมบัติของ
กระผมให้แก่คู่แข่งขันของกระผม.
อา. คุณ ท่านพระอัชชุกะไม่เป็นสมณะ.
สำดับนั้น ท่านพระอัชชุกะได้กล่าวคำนี้กะท่านพระอานนท์ว่า อาวุโส
อานนท์ ขอท่านได้โปรดให้การวินิจฉัยแก่กระผมด้วยเถิด.
ก็ครั้งนั้นแล ท่านพระอุบาลีเป็นฝักฝ่ายของท่านพระอัชชุกะท่านจึงถาม
ท่านพระอานนท์ว่า อาวุโส อานนท์ ภิกษุใดอันเจ้าของทรัพย์สั่งไว้ว่า ขอท่าน
ได้โปรดบอกสถานที่ฝังทรัพย์นี้แก่บุคคลชื่อนี้ แล้วบอกแก่บุคคลนั้น ภิกษุนั้น
จะต้องอาบัติด้วยหรือ.
อา. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ภิกษุนั้นไม่ต้องอาบัติสักน้อย โดยที่สุดแม้
เพียงอาบัติทุกกฏ.

อุ. อาวุโส ท่านพระอัชชุกะนี้อันเจ้าของทรัพย์สั่งไว้ว่า ขอท่านได้
โปรดบอกสถานที่ฝังทรัพย์นี้แก่บุคคลชื่อนี้ จึงได้บอกแก่บุคคลนั้น ท่านพระ-
อัชชุกะไม่ต้องอาบัติ.

เรื่องเมืองพาราณสี


[173] ก็โดยสมัยนั้นแล สกุลอุปัฏฐากของท่านพระปิลินทวัจฉะใน
เมืองพาราณสี ถูกพวกโจรปล้น และเด็ก 2 คนถูกพวกโจรนำตัวไป ครั้นนั้น
ท่านพระปิลินทวัจฉะนำเด็ก 2 คนนั้นมาด้วยฤทธิ์แล้วให้อยู่ในปราสาท
ชาวบ้านเห็นเด็ก 2 คนนั้นแล้ว ต่างพากันเลื่อมใสในท่านพระปิลินทวัจฉะ
เป็นอย่างยิ่งว่า นี้เป็นฤทธานุภาพของพระปิลินทวัจฉะ ภิกษุทั้งหลายพากัน
เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนท่านพระปิลินทวัจฉะจึงได้นำเด็กที่ถูก
พวกโจรนำตัวไปแล้วคืนมาเล่า แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ
ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไม่เป็นอาบัติ เพราะวิสัยแห่งฤทธิ์ของภิกษุมีฤทธิ์.

เรื่องภิกษุชาวเมืองโกสัมพี


[174] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุ 2 รูป ชื่อปัณฑกะ 1 ชื่อกปีล 1
เป็นสหายกัน รูปหนึ่งอยู่ในหมู่บ้าน อีกรูปหนึ่งอยู่ในเมืองโกสัมพี ขณะเมื่อ
ภิกษุนั้นเดินทางจากหมู่บ้านไปเมืองโกสัมพี ข้ามแม่น้ำในระหว่างทาง เปลว
มันข้นที่หลุดจากมือของพวกคนฆ่าหมูลอยติดอยู่ที่เท้า ภิกษุนั้นได้เก็บไว้ด้วย
ตั้งใจว่า จักให้แก่พวกเจ้าของ ๆ โจทภิกษุนั้นว่า ท่านไม่เป็นสมณะ สตรี
เลี้ยงโคคนหนึ่งเห็นภิกษุนั้นข้ามแม่น้ำขึ้นมาแล้ว ได้กล่าวคำนี้ว่า ท่านเจ้าขา
นิมนต์มาเสพเมถุนธรรมเถิด ภิกษุนั้นคิดว่า แม้โดยปกติ เราก็ไม่เป็นสมณะ
แล้ว จึงเสพเมถุนธรรมในสตรีเลี้ยงโคนั้น ไปถึงเมืองโกสัมพีแล้ว แจ้งเรื่องนี้