เมนู

[เรื่องเปรตพราหมณ์ชั่ว]


ในเรื่องพราหมณ์ชั่ว พึงทราบวินิจฉัยดังนี้ * :-
เพราะชื่อว่า มาตุคาม ไม่เป็นอิสระในผัสสะของตน , แต่หญิงนั้น
ขโมยผัสสะของสามีนั้น ยังความอภิรมย์ให้เกิดแก่คนเหล่าอื่น : ฉะนั้น จึงได้
บังเกิดเป็นหญิงเปรตปราศจากผิว เพื่อกำจัดสัมผัสเป็นสุขนั้นเสียแล้ว เสวย.
สัมผัสเป็นทุกข์ เพราะมีส่วนเสมอด้วยกรรม.

[เรื่องมังคุลีหญิงเปรต]


ในเรื่องมังคุลีหญิงเปรต พึงทราบวินิจฉัยดังนี้ :- บทว่า มงฺคุฬี
ได้แก่ มีรูปผิดไป คือ มองดูน่าชัง น่าเกลียด. ได้ยินว่า หญิงนั้นทำหน้าที่
เป็นแม่มด คือ หน้าที่เป็นทาสีของยักษ์ กล่าวว่า เมื่อทำพลีกรรมอย่างนี้
ด้วยสิ่งนี้และสิ่งนี้ ความเจริญของพวกท่าน ชื่อนี้จักมี ดังนี้ แล้วถือเอาของหอม
และดอกไม้เป็นต้น ของมหาชนด้วยการล่อลวงยังมหาชนให้ยึดถือมิจฉาทิฏฐิ
อันเป็นทิฏฐิชั่ว. เพราะฉะนั้น หล่อนจึงเกิดเป็นนางเปรตมีกลิ่นเหม็น เพราะ
ขโมยของหอมและดอกไม้เป็นต้น เป็นนางเปรตมองดูน่าชัง ผิดรูป น่าเกลียด
เหตุให้มหาชนยึดถือความเห็นชั่ว เพราะมีส่วนเสมอด้วยกรรมนั้น.

[เรื่องโอกิลินีหญิงเปรต]


เรื่องโอกิลินีหญิงเปรต พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :- ข้อว่า อุปกฺกํ
โอกิลินึ โอกีรณึ
มีความว่า ได้ยินว่า นางเปรตนั้น นอนอยู่บนเชิงตะกอน
ถ่านเพลิง ดิ้นพลิกไปมาถูกไฟไหม้ ; เพราะฉะนั้น นางจึงเป็นผู้ถูกไฟครอก
มีสรีระสุกด้วยไฟกรด มีน้ำเหงื่อหยด มีสรีระเปียก คือหยาดน้ำเหงื่อทั้งหลาย
ย่อมหลั่งออกจากสรีระของนางเปรตนั้น และมีถ่านเพลิงเกลื่อนกล่น คือ
//* ในเรื่องนี้ ไม่มีอธิบาย อาจจะตกไปก็เป็นได้, เลยไปอธิบายเรื่องหญิงเปรตถัดไป.

เกลื่อนกล่นด้วยถ่านเพลิง. ด้วยว่าถ่านเพลิงทั้งหลาย มีสีดังดอกทองกวาว
ย่อมตกแม้จากเบื้องล่างของนางเปรตนั้น ถ่านเพลิงทั้งหลาย ย่อมตกแม้ในช้าง
ทั้ง 2 แม้จากอากาศในเบื้องบนของนางเปรตนั้น. ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า
ถูกไฟครอก น้ำเหงื่อหยด มีถ่านเพลิงเกลื่อนกล่น. นางนั้นเป็นคนขี้หึง
เอากระทะถ่านเพลิงราดหญิงร่วมผัว. ได้ยินว่า นางระบำคนหนึ่งของพระราชา
พระองค์นั้น วางกระทะถ่านเพลิงไว้ในที่ใกล้ เช็ดน้ำจากตัวและอบด้วยฝ่ามือ.
พระราชาทรงสนทนากับนางระบำนั้น และทรงแสดงอาการโปรดปรานมากไป.
พระอัครมเหสีทรงทนดูเหตุการณ์นั้นไม่ไหว ทรงหึง เมื่อพระราชาเสด็จออก
ไปไม่ทันนาน ก็ทรงหยิบกระทะถ่านเพลิงนั้น ราดถ่านเพลิงลงเบื้องบนนาง
ระบำนั้น. พระนางทำกรรมนั้นแล้ว บังเกิดในเปตโลก เพื่อเสวยวิบาก
เช่นนั้นนั่นแล.

[เรื่องโจรฆาตเปรต]


ในเรื่องโจรฆาตเปรต พึงทราบวินิจฉัยดังนี้ :- เพชฌฆาตโจรนั้น
ตัดศีรษะพวกโจรมาช้านาน ตามคำสั่งของพระราชา เมื่อบังเกิดในเปตโลก
จึงได้บังเกิดเป็นตัวกพันธ์ไม่มีศีรษะ.

[เรื่องพระภิกษุเปรตเป็นต้น]


ในเรื่องภิกษุ พึงทราบวินิจฉัยดังนี้ :- บทว่า ปาปภิกฺขุ คือ เป็น
ภิกษุลามก. ได้ยินว่า ภิกษุนั้น บริโภคปัจจัย 4 ที่เขาถวายด้วยศรัทธาของ
ชาวโลก เป็นผู้ไม่สำรวมทางกายทวารและวจีทวาร มีอาชีพอันทำลายแล้ว
เที่ยวเล่นสนุกสนานตามชอบใจ. ภายหลังถูกไฟไหม้อยู่ในนรก ตลอดพุท-
ธันดรหนึ่ง เมื่อเกิดในเปตโลก ก็บังเกิดด้วยอัตภาพเช่นกับภิกษุนั่นแหละ.