เมนู

ชีวิตมาตลอดราตรีนาน. เขาจึงได้มีนิมิต คือ ภาวะของคนที่เงื้อดาบขึ้น ฉะนั้น
เขาจึงเกิดเป็นอสิโลมเปรต.

[เรื่องสัตติโลมเปรต]


ในเรื่องสัตติโลมเปรต พึงทราบวินิจฉัยต่อไป :- สัตติโลมเปรตนั้น
เป็นคนล่าเนื้อ พาเอาเนื้อตัวหนึ่งและถือหอกเล่มหนึ่ง ไปป่าแล้ว ใช้หอก
แทงเนื้อที่พากันมาสู่ที่ใกล้เนื้อนั้นให้ตาย. เขาจึงได้มีนิมิต คือ ภาวะที่ใช้
หอกแทง, ฉะนั้น เขาจึงเกิดเป็นสัตติโลมเปรต.

[เรื่องอุสุโลมเปรต]


ในเรื่องอุสุโลมเปรต พึงทราบวินิจฉัยต่อไป :- บทว่า การณิโก
ความว่า เป็นบุรุษผู้เบียดเบียนพวกคนผู้ผิดต่อพระราชา ด้วยเหตุทั้งหลาย
เป็นอันมาก ลงท้ายใช้ลูกศรยิงให้ตาย. ได้ยินว่า เขาทราบก่อนว่า คนถูกยิง
ส่วนโน้นจึงจะคาย ดังนี้ แล้วจึงยิง. เขานั่นเองเลี้ยงชีวิตแล้วบังเกิดในนรก
ในเวลาเกิดในเปรตวิสัยนี้ ได้มีนิมิตคือภาวะที่ใช้ศรยิง ด้วยวิบากที่ยังเหลือ
จากนรกนั้น. ฉะนั้น เขาจึงเกิดเป็นอุสุโลมเปรต.

[เรื่องสูจิโลมเปรต]


ในเรื่องสูจิโลมเปรต พึงทราบวินิจฉัยต่อไป :- บทว่า สารถิ คือ
เป็นคนฝึกม้า ในอรรถกถากุรุนที ท่านกล่าวว่า เป็นคนฝึกโค ดังนี้บ้าง
เขาได้มีนิมิต คือ ภาวะที่แทงด้วยเข็มปฏัก. เขาจึงเกิดเป็นสูจิโลมเปรต.

[เรื่องสูจิโลมเปรตที่ 2]


ในเรื่องสูจิโลมเปรตเรื่องที่ 2 พึงทราบวินิจฉัยต่อไป :- บทว่า
สูจีโก คือ เป็นคนทำการส่อเสียด ได้ยินว่า เขาทำลายมนุษย์ทั้งหลายและ
พวกเดียวกัน และยุยงในราชตระกูลว่า คนนี้มีความผิดชื่อ คนนี้ทำผิดชื่อนี้