เมนู

อย่างนั้น คือ กรรมเป็นเหตุประทุษร้ายคนเดินทาง ปล้นสดมภ์ชาวบ้านที่ตั้ง
อยู่ชายแดน เป็นบุรุษผู้ถึงความเจริญไพบูลย์ขึ้นแล้ว ทำบ้านมิไห้เป็นบ้านบ้าง
ทำชนบทมิให้เป็นชนบทบ้าง ฆ่าเอง ให้ผู้อื่นฆ่า ตัดเอง ให้ผู้อื่นตัด เผา-
ผลาญเอง ให้ผู้อื่นเผาผลาญ.

[มหาโจรในพระศาสนาเที่ยวย่ำยีสิกขาบทน้อยใหญ่]


พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นทรงแสดงโจรภายนอกอย่างนี้แล้ว จึงตรัส
พระดำรัสว่า เอวเมว โข เป็นต้น เพื่อทรงแสดงมหาโจร 5 จำพวกใน
พระศาสนา ผู้เช่นกับโจรภายนอกนั้น.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปาปภิกฺขุโน ความว่า ในที่อื่นๆ
ภิกษุผู้ต้องปาราชิก มีมูลขาดแล้ว ท่านเรียกว่า ภิกษุผู้เลวทราม. ส่วนใน
สิกขาบทนี้ ภิกษุผู้มิได้ต้องปาราชิก แต่ตั้งอยู่ในอิจฉาจารเที่ยวย่ำยีสิกขาบท
น้อยใหญ่ ท่านประสงค์เอาว่า ภิกษุผู้เลวทราม ความปรารถนาในส่วนเบื้อง
ต้น ย่อมเกิดขึ้น แม้แก่ภิกษุผู้เลวทรามนั้น เหมือนเกิดขึ้นแก่มหาโจรภายนอก
อย่างนี้ว่า เมื่อไรหนอ ? เราจงจักเป็นผู้อันภิกษุร้อยหนึ่งหรือพันหนึ่ง
แวดล้อมแล้ว เที่ยวจารึกไปในคามนิคมและราชธานี อันคฤหัสถ์
และบรรพชิตสักการะ เคารพนับถือ บูชา ยำเกรง ได้จีวร บิณ -
ฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัช ปริขาร. *

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สกฺกโต ได้แก่ ผู้ประสบสักการะ.
บทว่า ครุกโต ได้แก่ ผู้ได้รับความเคารพ.
บทว่า มานิโต ได้แก่ ผู้อันเขารักด้วยน้ำใจ.
บทว่า ปูชิโต ได้แก่ ผู้อันเขาบูชาแล้ว ด้วยการบูชา คือนำมา
เฉพาะซึ่งปัจจัยทั้ง 4.
//* วิ. มหา. 1/14.169 - 170