เมนู

เรื่องอัฏฐิสังขลิกเปรต


[295] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
เวฬุวันวิหาร อันเป็นสถานที่พระราชทานเหยื่อแก่กระแต เขตพระนคร
ราชคฤห์ ครั้งนั้นท่านพระลักขณะกับท่านพระมหาโมคคัลลานะอยู่ ณ คิชฌกูฏ
บรรพต ครั้นเวลาเช้า ท่านพระมหาโมคคัลลานะครองอันตราวาสกแล้ว ถือ
บาตรจีวรเข้าไปหาท่านพระลักขณะจนถึงที่อยู่ ครั้นแล้วได้กล่าวคำนี้กะท่าน
พระลักขณะว่า อาวุโส ลักขณะมาเถิด เราจะเข้าไปบิณฑบาตยังกรุงราชคฤห์
ด้วยกัน ท่านพระลักขณะรับ คำท่านพระมหาโมคคัลลานะว่า ได้ อาวุโส.
ขณะที่ท่านพระมหาโมคคัลลานะ กำลังลงจากคิชฌกูฏบรรพตนั้น ได้
ยิ้มให้ปรากฏ ณ ประเทศแห่งหนึ่ง จึงท่านพระลักขณะได้ถามท่านพระมหา-
โมคคัลลานะ ว่า อาวุโส มหาโมคคัลลานะ อะไรหนอ เป็นเหตุ อะไรหนอ
เป็นปัจจัย ให้ยิ้ม.
ม. อาวุโส ลักขณะ ยังไม่สมควรที่จะพยากรณ์ปัญหานี้ ท่านจงถาม
ปัญหานี้กะผม ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าเถิด.
ครั้นท่านพระลักขณะกับท่านพระมหาโมคคัลลานะ เที่ยวบิณฑบาต
ในกรุงราชคฤห์ กลับจากบิณฑบาตในเวลาภายหลังภัตแล้ว จึงพากันเข้าไป
เฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้าง
หนึ่งแล้ว ท่านพระลักขณะได้กล่าวคำนี้กะท่านพระมหาโมคคัลลานะว่า ท่าน
พระมหาโมคคัลลานะ เมื่อกำลังลงจากคิชฌกูฎบรรพต เขตพระนครราชคฤห์นี้
ได้ทำการยิ้มให้ปรากฏ ณ ประเทศแห่งหนึ่ง อาวุโส โมคคัลลานะ อะไรหนอ
เป็นเหตุ อะไรหนอ เป็นปัจจัยให้ยิ้ม.

ท่านพระมหาโมคคัลลานะกล่าวว่า อาวุโส ผมลงจากคิชฌกูฏบรรพต
เขตพระนครราชคฤห์นี้ ได้เห็นอัฏฐิสังขลิกเปรตมีแต่ร่างกระดูก ลอยไปใน
เวหาส์ ฝูงแร้ง เหยี่ยว และนกตะกรุม พากันโฉบอยู่ขวักไขว่ จิกสับโดยแรง
จิกทิ้ง ยื้อแย่งตามช่องซี่โครง สะบัดซึ่งเปรตนั้นอยู่ไปมา เปรตนั้นร้องครวญ
คราง อาวุโส ผมนั้นได้คิดเช่นนี้ว่า น่าอัศจรรย์จริงหนอ น่าประหลาดจริง
หนอ ที่สัตว์แม้เห็นปานนี้ ยักษ์แม้เห็นปานนี้ เปรตแม้เห็นปานนี้ การได้
อัตภาพแม้เห็นปานนี้ก็มีอยู่.
ภิกษุทั้งหลายพากันเพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ท่านพระมหาโมคคัล-
ลานะอวดอุตริมนุสธรรม
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย สาวกทั้งหลายย่อมเป็นผู้มีจักษุอยู่ ย่อมเป็นผู้มีญาณอยู่ เพราะสาวก
ได้รู้ได้เห็น หรือได้ทำสัตว์เช่นนี้ ให้เป็นพยานแล้ว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อ
กาลก่อนเราก็ได้เห็นสัตว์นั้น แต่เราไม่ได้พยากรณ์ ถ้าเราพยากรณ์สัตว์นั้น
และคนอื่นไม่เชื่อเรา ข้อนั้นก็จะพึงเป็นไปเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อ
ทุกข์ แก่เขาเหล่านั้นสิ้นกาลนาน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์นั้นเคยเป็นคน
ฆ่าโคอยู่ในพระนครราชคฤห์นี้เอง ด้วยวิบากแห่งกรรมนี้นั้น เขาหมกไหม้อยู่
ในนรกหลายปี หลายร้อยปี หลายพันปี หลายแสนปี แล้วได้ประสบอัตภาพ
เช่นนี้ ด้วยวิบากแห่งกรรม นั้นแหละ ที่ยังเป็นส่วนเหลืออยู่ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
โมคคัลลานะ พูดจริง โมคคัลลานะ ไม่ต้องอาบัติ.

เรื่องมังสเปสิเปรต


โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันวิหาร
อันเป็นสถานที่พระราชทานเหยื่อแก่กระแต เขตพระนครราชคฤห์ ครั้งนั้น
ท่านพระลักขณะกับท่านพระมหาโมคคัลลานะ. . .