เมนู

เรื่องวิหาร


[289] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งพูดกะอุบาสกคนหนึ่งว่า
ดูก่อนอุบาสก ภิกษุผู้อยู่ในวิหารของท่านนั้น เป็นพระอรหันต์ และภิกษุนั้น
ก็อยู่ในวิหารของอุบาสกนั้น เธอมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุ เธอติดอย่างไร.
ภิ. ข้าพระพุทธเจ้ามีความประสงค์จะพูดอวด พระพุทธเจ้าข้า
ภ. ดูก่อนภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติถุลลัจจัย.

เรื่องบำรุง


ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งได้พูดกะอุบาสกผู้หนึ่งว่า ดูก่อนอุบาสก
ภิกษุที่ท่านบำรุงด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร
นั้นเป็นพระอรหันต์ และอุบาสกนั้นก็บำรุงภิกษุนั้นอยู่ด้วยจีวร บิณฑบาต
เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร เธอมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่อง
นั้นแด่พระผู้มี พระภาคเจ้า ๆ ตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุ เธอคิดอย่างไร.
ภิ. ข้าพระพุทธเจ้ามีความประสงค์จะพูดอวด พระพุทธเจ้าข้า.
ภ. ดูก่อนภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติถุลลัจจัย.

เรื่องทำไม่ยาก


[290] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธ ภิกษุทั้งหลายได้พา
กันถามภิกษุนั้นว่า อุตริมนุสธรรมของคุณมีหรือ.
ภิกษุนั้นตอบว่า ดูก่อนอาวุโสทั้งหลาย การทำพระอรหัตผลให้แจ้ง
ไม่ใช่ของทำได้ยาก แล้วมีความรังเกียจว่า เฉพาะท่านที่เป็นสาวกของพระผู้มี
พระภาคเจ้าเท่านั้น จึงควรพูดอย่างนั้น ส่วนเราสิ หาได้เป็นสาวกของพระองค์

ไม่ เราต้องอาบัติปาราชิกแล้ว กระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มี
พระภาคเจ้า ๆ ตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุ เธอคิดอย่างไร.
ภิ. ข้าพระพุทธเจ้ามิได้มีความประสงค์จะพูดอวด พระพุทธเจ้าข้า.
ภ. ดูก่อนภิกษุ ภิกษุผู้ไม่มีความประสงค์จะพูดอวด ไม่ต้องอาบัติ.

เรื่องความเพียร


ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธ ภิกษุทั้งหลายได้พากันถาม
ภิกษุนั้นว่า อุตริมนุสธรรมของคุณมีหรือ.
ภิกษุนั้นตอบว่า ดูก่อนอาวุโสทั้งหลาย อันท่านผู้ปรารภความ เพียร
แล้ว พึงยังธรรมให้สัมฤทธิผลได้ แล้วมีความรังเกียจว่า เฉพาะท่านทที่เป็น
สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเท่านั้น จึงควรพูดอย่างนั้น ส่วนเราสิ หาได้เป็น
สาวกของพระองค์ไม่ เราต้องอาบัติปาราชิกแล้ว กระมังหนอ จึงกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคนเจ้า ๆ ตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุ เธอคิคอย่างไร.
ภิ. ข้าพระพุทธเจ้ามิได้มีความประสงค์จะพูดอวด พระพุทธเจ้า.
ภ. ดูก่อนภิกษุ ภิกษุผู้ไม่มีความประสงค์จะพูดอวด ไม่ต้องอาบัติ.

เรื่องไม่กลัวความตาย


ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธ ภิกษุทั้งหลายได้พูดกะภิกษุ
นั้นว่า ดูก่อนอาวุโส ท่านอย่าได้กลัวเลย.
ภิกษุนั้นตอบว่า ดูก่อนอาวุโสทั้งหลาย ผมไม่กลัวต่อความตาย แล้ว
มีความรังเกียจว่า เฉพาะท่านที่เป็นสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเท่านั้น จึง
ควรพูดอย่างนั้น ส่วนเราสิ หาได้เป็นสาวกของพระองค์ไม่ เราต้องอาบัติ