เมนู

4. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งนอนอยู่ด้วยตั้งใจว่า คนจักยกย่อง
เราด้วยวิธีนี้ คนยกย่องภิกษุนั้นแล้ว เธอมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้น
แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก ภิกษุ
ทั้งหลาย อันภิกษุไม่พึงนอนด้วยทั้งใจเช่นนั้น ภิกษุใดนอนด้วยตั้งใจเช่นนั้น
ต้องอาบัติทุกกฏ.

เรื่องละสัญโญชน์


[287] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งพูดอวดอุตริมนุสธรรมแก่
ภิกษุอีกรูปหนึ่ง แม้ภิกษุรูปนั้นก็กล่าวอวดอย่างนี้ว่า อาวุโส แม้ผมก็ละ
สัญโญชน์ได้ แล้วมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ
ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว.

เรื่องธรรมในที่ลับ


[288] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอยู่ในที่ลับ พูดอวดอุตริ-
มนุสธรรม ภิกษุผู้รู้จิตของบุคคลนั้น ตักเตือนเธอว่า อาวุโส คุณอย่าได้พูด
เช่นนั้น เพราะธรรมเช่นนั้นไม่มีแก่คุณ ภิกษุนั้นมีความรังเกียจ จึงกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก
แต่ต้องอาบัติทุกกฏ.
ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุอีกรูปหนึ่งอยู่ในที่ลับ พูดอวดอุตริมนุสธรรม
เทพดาตักเตือนเธอว่า ข้าแด่พระคุณเจ้า พระคุณเจ้าอย่าได้พูดเช่นนั้น เพราะ
ธรรมนั้นไม่มีแก่พระคุณเจ้า ภิกษุนั้นมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่
พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้อง
อาบัติทุกกฏ.