เมนู

ไม่เห็นธรรมเหล่านั้น อนึ่ง ข้าพเจ้าไม่มีธรรมเหล่านั้น และข้าพเจ้าไม่เห็นชัด
ในธรรมเหล่านี้.
คำว่า ข้าพเจ้าพูดพล่อย ๆ เป็นเท็จเปล่า ๆ ความว่า ข้าพเจ้า
พูดพล่อย ๆ พูดเท็จ พูดไม่จริง พูดสิ่งที่ไม่มี ข้าพเจ้าไม่รู้ได้พูดแล้ว.
บทว่า เว้นไว้แต่สำคัญว่าได้บรรลุ คือ ยกเสียแต่เข้าใจว่าตนได้
บรรลุ.
[235] บทว่า แม้ภิกษุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเทียบถึงภิกษุรูป
ก่อน ๆ.
บทว่า เป็นปาราชิก ความว่า ต้นตาลมียอดด้วนแล้ว ไม่อาจจะ
งอกอีก ชื่อแม้ฉันใด ภิกษุ ก็ฉันนั้นแหละ มีความอยากอันลามก อันความ
อยากรอบงำแล้ว พูดอวดอุตริมนุสธรรม อันไม่มีอยู่ อันไม่เป็นจริง
ย่อมไม่ เป็นสมณะ ไม่เป็นเชื้อสายพระศากยบุตร เพราะฉะนั้น พระผู้มี-
พระภาคเจ้าจึงตรัสว่า เป็นปาราชิก.
บทว่า หาสังวาสมิได้ ความว่า ที่ชื่อว่า สังวาส ได้แก่ กรรมที่
พึงทำร่วมกัน อุเทศที่พึงสวดร่วมกัน ความเป็นผู้มีสิกขาเสมอกัน นั่นชื่อว่า
สังวาส สังวาสนั้นไม่มีร่วมกับภิกษุนั้น เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า
จึงตรัสว่า ทาสังวาสมิได้.

บทภาชนีย์


[236] ที่ชื่อว่า อุตริมนุสธรรม ได้แก่ 1. ฌาน 2. วิโมกข์
3. สมาธิ 4. สมาบัติ 5. ญาณทัสสนะ 6. มรรคภาวนา 7.
การทำให้แจ้งซึ่งผล 8. กรละกิเลส 9. ความเปิดจิต 10. ความ
ยินดียิ่งในเรือนอันว่างเปล่า.