เมนู

ทำกลับให้เป็นภัณฑะนั้นอย่างเดิม แล้วจึงจะพ้น. ถ้าภิกษุยังดาบที่เอาจอบ
ให้ช่างทำ ให้เสียหายไป แล้วทำให้เป็นผาลไซร้, แม้เมื่อสัตว์มากหลายได้
การประหารด้วยผาลตายไป ภิกษุนั้น ย่อมไม่พ้นจากปาณาติบาต. แต่ถ้าเธอ
ให้หลอมโลหะขึ้นมาแล้วให้ช่างทำเป็นดาบ เพื่อการลอบวางนั่นเอง, เมื่อดาบ
ที่เธอเอาปลายเหล็กครูดถูแล้วทำให้แหลกละเอียดกระจัดกระจายไป เธอจึงจะ
พ้น. แม้ถ้าเป็นดาบที่ภิกษุมากรูปร่วมอัธยาศัยกันทำไว้ เป็นเหมือนใบลานที่
เขียนพรรณนา (คุณความตาย) ไว้ฉะนั้น วินิจฉัยถึงข้อถูกพันทางกรรมพึง
ทราบโดยนัยดังที่กล่าวแล้วในใบลานนั่นแล. ในหอกและฉมวกก็นัยนี้. ใน
หลาวและไม้ค้อนมีวินิจฉัยเช่นกับที่กล่าวแล้วในไม้คันบ่วง. ในหินก็อย่างนั้น.
ในศัสตราก็มีวินิจฉัยเหมือนดาบนั่นเอง.

[ว่าด้วยลอบวางยาพิษไว้เป็นต้น]


บทว่า วิสํ วา ความว่า เมื่อภิกษุลอบวางยาพิษไว้ พึงทราบว่า
เป็นปาราชิกเป็นต้น ในวัตถุแห่งปาราชิกเป็นต้น โดยควรแก่การเจาะจงและ
ไม่เจาะจงด้วยอำนาจแห่งวัตถุ. ในยาพิษที่ภิกษุซื้อมาเก็บไว้ เธอทำให้เป็น
ปกติเติมโดยนัยก่อนแล้ว จึงจะพ้น. เมื่อภิกษุผสมยาพิษเข้ากับเภสัชเสียเอง
เธอทำไม่ให้เป็นยาพิษแล้วจึงจะพ้นได้. ในเชือกมีวินิจฉัยเช่นกับด้วยเชือกบ่วง
นั่นแหละ.
ในเภสัช วินิจฉัยดังนี้:- ภิกษุใด เมื่อภิกษุผู้มีเวรเกิดเป็นไข้เชื่อม
หรือโรคมีส่วนเป็นพิษขึ้น มีความประสงค์จะให้ตายเรียกว่า วัตถุมีเนยใสเป็น
ต้น เป็นที่สบาย ดังนี้ จึงถวายเภสัชแม้อันเป็นที่ไม่สบาย หรือเหง้าบัวรากไม้
และผลไม้ชนิดอื่นบางอย่าง, พึงทราบว่าเป็นทุกกฏแก่ภิกษุนั้น ในเพราะถวาย
เภสัชอย่างนั้น, เป็นถุลลัจจัยและปาราชิก ในเพราะก่อทุกข์ให้เกิดขึ้นแก่ผู้อื่น
และในเพราะเขาตาย, เป็นอนันตริยกรรม ในวัตถุแห่งอนันตริยกรรม