เมนู

มีอธิบายว่า เพราะเหตุที่เราได้ปลงภิกษุทั้งหลาย ซึ่งเป็นผู้มีศีล มีกัลยาณธรรม
คือผู้มีอุดมธรรม มีธรรมอันประเสริฐ เพราะความเป็นผู้มีศีลนั้นแล จากชีวิต.

[เทวดาช่วยปลอบโยนมิคลัณฑิกะให้ฆ่าภิกษุต่อไป]


สองบทว่า อญฺญตรา มารกายิกา มีความว่า ภุมเทวดาคนหนึ่ง
ไม่ปรากฏชื่อ เป็นมิจฉาทิฏฐิ เป็นฝักฝ่ายแห่งมาร ประพฤติตามมาร คิดว่า
มิคลัณฑิกะนี้ จักไม่กล้าล่วงบ่วงของมาร คือวิสัยของมารไปได้ ด้วยอุบาย
อย่างนี้ ดังนี้แล้วจึงประดับด้วยเครื่องอาภรณ์ทั้งปวง เมื่อจะแสดงอานุภาพ
ของตน จึงเดินมาบนน้ำ อันไม่แตกแยก ดุจเดินไปมาอยู่บนพื้นดินฉะนั้น
ได้กล่าวคำนั่น กะมิคลัณฑิกะสมณกุตก์.
ศัพท์ว่า สาธุ สาธุ เป็นนิบาต ลงในอรรถ คือความร่าเริง.
เพราะเหตุนั้น ในพระบาลีนี้ จึงกล่าวย้ำ 2 ครั้ง อย่างนี้แล.
สองบทว่า อติณฺเณ ตาเรสิความว่า ท่านช่วยส่งพวกคนที่ยังข้าม
ไม่พ้น ให้ข้ามพ้น คือช่วยเปลื้อง ให้พ้นจากสงสาร ด้วยการปลงเสียจาก
ชีวิต. ได้ยินว่า เทวดาผู้เป็นพาลทรามปัญญาตนนั้น มีลัทธิดังนี้ว่า บุคคล
ทั้งหลาย ผู้ยังไม่ตาย ชื่อว่ายังไม่พ้นจากสงสาร, ผู้ที่ตายแล้วจึงพ้น. เพราะ
เหตุนั้น เทวดาผู้มีลัทธิอย่างนั้น ก็เป็นเหมือนชนชาวป่า* ผู้จะเปลื้องตนจาก
สงสารฉะนั้น ได้ประกอบแม้มิคลัณฑิกะนั้นไว้ในการให้ช่วยปลงเสียจากชีวิต
นั้น จึงกล่าวอย่างนั้น.

[มิคลัณฑิกะฆ่าภิกษุต่อไปวันละ 1 รูปถึง 500 รูป]


ครั้งนั้นแล มิคลัณฑิกะสมณกุตก์ ถึงแม้เป็นผู้มีความเดือดร้อน
เกิดขึ้นกล้าแข็งเพียงนั้นก็ตาม ครั้นเห็นอานุภาพของเทวดานั้น ก็ถึงความ
ตกลงใจว่า เทวดาตนนี้ ได้กล่าวอย่างนี้, ประโยชน์นี้ พึงเป็นอย่างนี้ทีเดียว
//* มิลกฺข มลกฺโข คนชาวป่า, คนป่า, ผู้พูดอย่างเสียงสัตว์ร้อง, เป็นคนมิได้รับการศึกษาเลย.

แน่แท้ แล้วกล่าวคำเป็นต้นว่า นัยว่าเป็นลาภของเรา จึงจากวิหารเข้าไปสู่วิหาร
จากบริเวณเข้าไปสู่บริเวณ แล้วกล่าวอย่างนั้น คือ เข้าไปยังวิหารและบริเวณ
นั้น ๆ แล้ว เปิดประตู เข้าไปภายใน กล่าวกะภิกษุทั้งหลายอย่างนั้นว่า ใครยัง
ข้ามไม่พ้น ข้าพเจ้าจะช่วยส่งให้ข้ามพ้น.
สองบทว่า โหติเยว ภยํ ความว่า มีจิตสะคุ้ง เพราะอาศัยความตาย.
บทว่า ฉมฺภิตตฺตํ ความว่า มีร่างกายสั่นเทา ตั้งแต่เนื้อหัวใจ
เป็นต้นไป. อาจารย์พวกหนึ่งกล่าวว่า ความมีร่างกายแข็งทื่อ เพราะกลัวจัด
ดังนี้บ้าง. จริงอยู่ ความมีร่างกายแข็งดุจเสาท่านเรียกว่า ความหวาดเสียว.
ความมีขนตั้งชูขึ้นข้างบน ชื่อว่า ความมีชนชูชัน. ส่วนพระขีณาสพทั้งหลาย
ย่อมไม่เห็นสัตว์ตายเลย เพราะท่านเห็นดีแล้ว โดยความเป็นของว่างจากสัตว์
เพราะฉะนั้น บัณฑิตพึงทราบว่า อันตรายมีความกลัวเป็นต้นนั่น แม้ทั้งหมด
หาได้มีแก่พระขีณาสพเหล่านั้นไม่. มิคลัณฑิกะนั้นได้ปลงภิกษุมีประมาณ 500
รูป แม้ทั้งหมดเหล่านั้นเสียจากชีวิตด้วยอำนาจการคำนวณอย่างนั้นคือ เขาได้
ปลงภิกษุจากชีวิตเสีย วันละ 1 รูปบ้าง 2 รูปบ้าง ฯลๆ 60 รูปบ้าง.

[พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบว่าภิกษุสงฆ์เบาบ้างไป]


สองบทว่า ปฏิสลฺลานา วุฏฺฐิโต ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงทราบข้อที่ภิกฺษุมีประมาณ 500 รูปเหล่านั้นถึงมรณภาพ จึงเสด็จออกจาก
ความเป็นผู้โดดเดี่ยวนั้น ถึงแม้จะทรงทราบ ก็เป็นเหมือนไม่ทรงทราบจึงได้
ตรัสเรียกท่านพระอานนท์มา เพื่อให้ตั้งเรื่องขึ้น.
ข้อว่า กินฺนุโข อานนฺท ตนุภูโต วิย ภิกฺขุสงฺโฆ มีความว่า
พระองค์ทรงรับสั่งว่า ดูก่อนอานนท์ ! ในกาลก่อนแต่นี้ไป พวกภิกษุเป็น