เมนู

กระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว.

เรื่องไม้ทำตามคำของท่าน


ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งไปสู่ตะแลงแกง ได้พูดกะนายเพชฌฆาต
ว่า อาวุโส ท่านอย่าให้นักโทษคนนี้ลำบากเลย จงปลงชีวิตด้วยการฟันทีเดียว
ตายเถิด นายเพชฌฆาตนั้นพูดว่า ผมจักไม่ทำตามคำของท่าน แล้วปลงชีวิต
นักโทษนั้น ภิกษุนั้นมีความรั้งเกียจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกแล้วกระมังหนอ
จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ เธอไม่ต้อง
อาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติทุกกฏ.

เรื่องให้ดื่มเปรียง


[226] ก็โดยสมัยนั้นแล บุรุษคนหนึ่งมีมือและเท้าด้วน หมู่ญาติ
เลี้ยงดูไว้ในเรือนญาติ ภิกษุรูปหนึ่งได้พูดกะคนพวกนั้นว่า ท่านทั้งหลายอยาก
ให้บุรุษผู้นี้ตายหรือไม่.
ญ. ขอรับ กระผมอยากให้ตาย.
ภิ. ถ้าเช่นนั้น จงให้เขาดื่มเปรียง.
คนพวกนั้นจึงได้ให้บุรุษนั้นดื่มเปรียง บุรุษนั้นได้ตายแล้ว ภิกษุนั้น
มีความรังเกียจวา เราต้องอาบัติปาราชิกแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้น
แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว.

เรื่องให้ดื่มดองโลณะโสจิรกะ


ก็โดยสมัยนั้นแล บุรุษคนหนึ่งมีมือและเท้าด้วน หมู่ญาติเลี้ยงดูไว้
ในเรือนญาติ ภิกษุณีรูปหนึ่งได้พูดกะคนพวกนั้นว่า ท่านทั้งหลายปรารถนา
ให้บุรุษนี้ตายหรือไม่.
ญ. ปรารถนาเจ้าข้า
ภิ. ถ้าเช่นนั้น จงให้เขาดื่มยาดองชื่อโลณะโสจิรกะ.
คนพวกนั้นได้ให้บุรุษนั้นดื่มยาดองโลณะโสจิรกะ บุรุษนั้นได้ตายแล้ว
ภิกษุณีนั้นมีความรังเกียจ จึงได้แจ้งเรื่องนั้นแก่ภิกษุณีทั้งหลาย ๆ ได้แจ้งเรื่อง
นั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย ๆ ได้กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีนั้น ต้องอาบัติปาราชิกแล้ว.
ปาราชิกสิกขาบทที่ 3 จบ

ตติยปาราชิกวรรณนา


ตติยปาราชิกใด ซึ่งพระพุทธเจ้าผู้
หมดจดทางไตรทวารทรงประกาศแล้ว, บัด
นี้ ถึงลำดับสังวรรณนา แห่งตติยปาราชิก
นั้นแล้ว; เพราะเหตุนั้นคำใดที่จะพึงรู้ได้ง่าย
และคำใดที่ข้าพเจ้าได้ประกาศไว้แล้วในก่อน
สังวรรณนานี้แม้แห่งตติยปาราชิกนั้น จะเว้น
คำนั้น ๆ เสียฉะนี้แล.