เมนู

เลื่อมใส 1 เพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว 1 เพื่อความตั้งมั่น
แห่งพระสัทธรรม 1 เพื่อถือตามพระวินัย 1.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนั้น
ว่าดังนี้:-

อนุบัญญัติ


3. อนึ่ง ภิกษุใดจงใจพรากกายมนุษย์ จากชีวิต หรือแสวง
หาศัสตราอันจะปลิดชีวิตให้เก่กายมนุษย์นั้น หรือพรรณนาคุณแห่ง
ความตาย หรือชักชวนเพื่ออันตาย ด้วยถ้อยคำว่า แนะนายผู้เป็น
ชาย จะประโยชน์อะไรแก่ท่าน ด้วยชีวิตอันแสนลำบากยากแค้นนี้
ท่านตายเสียดีกว่าเป็นอยู่ ดังนี้ เธอมีจิตอย่างนี้ มีใจอย่างนี้ มีความ
หมายหลายอย่าง อย่างนี้ พรรณนาคุณในความตายก็ดี ชักชวน
เพื่ออันตายก็ดี โดยหลายนัย แม้ภิกษุนี้ก็เป็นปาราชิก หาสังวาส
มีได้.

เรื่องพระฉัพพัคคีย์ จบ

สิกขาบทวิภังค์


[181] บทว่า อนึ่ง. . .ใด ความว่าผู้ คือ ผู้เช่นใด มีการงาน
อย่างใด มีชาติอย่างใด มีชื่ออย่างใด มีโคตรอย่างใด มีปกติอย่างใด มี
ธรรมเครื่องอยู่อย่างใด มีอารมณ์อย่างใด เป็นเถระก็ตาม เป็นนวกะก็ตาม
เป็นมัชฌิมะก็ตาม นี้พระผู้มีพระภาคตรัสว่า อนึ่ง. . .ใด.
บทว่า ภิกษุ ความว่า ที่ชื่อว่า ภีกษุ เพราะอรรถว่า เป็นผู้ขอ
ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่า ประพฤติภิกขาจริยวัตร ชื่อว่า ภิกษุ เพราะ

อรรถว่า ทรงผืนผ้าที่ถูกทำลายแล้ว ชื่อว่า ภิกษุ โดยสมญา ชื่อว่า ภิกษุ
โดยปฏิญญา ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่า เป็นเอหิภิกษุ ชื่อว่า ภิกษุ เพราะ
อรรถว่า เป็นผู้อุปสมบทแล้วด้วยไตรสรณคมน์ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่า
เป็นผู้เจริญ ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่า มีสารธรรม ชื่อว่า ภิกษุ เพราะ
อรรถว่า เป็นพระเสขะ ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่า เป็นพระอเสขะชื่อว่า
ภิกษุ เพราะอรรถว่า เป็นผู้อันสงฆ์พร้อมเพรียงกันให้อุปสมบทแล้วด้วย
ญัตติจตุตถกรรม อันไม่กำเริบ ควรแก่ฐานะ บรรดาผู้ที่ชื่อว่า ภิกษุเหล่านั้น
ภิกษุนี้ใด ที่สงฆ์พร้อมเพรียงกันให้อุปสมบทแล้วด้วยญัตติจตุตถกรรมอันไม่
กำเริบ ควรแก่ฐานะ ภิกษุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประสงค์ว่า ภิกษุ ใน
อรรถนี้.
บทว่า จงใจ ความว่า ภิกษุใดรู้อยู่ รู้ดีอยู่ พรากกายมนุษย์จาก
ชีวิต การกระทำของภิกษุนั้น เป็นความตั้งใจ พยายาม ละเมิด.
ที่ชื่อว่า กายมนุษย์ ได้แก่จิตแรกเกิดขึ้น คือ ปฐมวิญญาณปรากฏ
ขึ้นในท้องแห่งมารดา ตราบเท่าถึงกาลเป็นที่ตาย อัตภาพในระหว่างนี้ ชื่อว่า
กายมนุษย์.
บทว่า พรากชีวิต ความว่า ตัดทอน บั่นรอน ซึ่งอินทรีย์
คือชีวิต ทำความสืบต่อให้กำเริบ.
บทว่า หรือแสวงหาศัสตราอันจะปลิดชีวิตให้แก่กายมนุษย์
นั้น ได้แก่ ดาบ หอก ฉมวก หลาว ค้อน หิน มีด ยาพิษ หรือเชือก.
[182] บทว่า หรือพรรณนาคุณแห่งความตาย ได้แก่แสดง
โทษในความเป็นอยู่ พรรณนาคุณในความตาย.

[183] บทว่า หรือชักชวนเพื่ออันตาย คือชักชวนว่า จงนำมีด
มา จงกินยาพิษ หรือจงแขวนคอตายด้วยเชือก.
[184] บทว่า แน่ะนายผู้เป็นชาย นี้เป็นคำสำหรับเรียก คือคำ
ทักทาย.
คำว่า จะประโยชน์ อะไรแก่ท่าน ด้วยชีวิตอันแสนลำบาก
ยากแค้นนี้ ท่านตายเสียดีกว่าเป็นอยู่
ดังนี้ นั้น อธิบายว่า ชีวิตที่ชื่อ
ว่ายากแค้น คือเทียบชีวิตของตนมั่งคั่ง ชีวิตของตนเข็ญใจ ก็ชื่อว่ายากแค้น
เทียบชีวิตของตนมีทรัพย์ ชีวิตของตนไร้ทรัพย์ ก็ชื่อว่ายากแค้น เทียบชีวิต
ของเหล่าเทพเจ้า ชีวิตของพวกมนุษย์ ก็ชื่อว่ายากแค้น ชีวิตของตนมีมือขาด
มีเท้าขาด มีทั้งมือทั้งเท้าขาด มีหูขาด มีจมูกขาด มีทั้งหูทั้งจมูกขาด ชื่อว่า
ชีวิตอันแสนลำบาก จะประโยชน์อะไรด้วยชีวิตอันแสนลำบากและยากแค้น
เช่นนี้ ท่านตายเสียดีกว่าเป็นอยู่ ดังนี้.
บทว่า มีจิตอย่างนี้ มีใจอย่างนี้ ความว่า ธรรมชาติอันใดเป็นจิต
ธรรมชาติอันนั้นชื่อว่าใจ ธรรมชาติอันใดเป็นใจ ธรรมชาติอันนั้นชื่อว่าจิต.
บทว่า มีความมุ่งหมายหลายอย่าง อย่างนี้ คือมีความหมายใน
อันตาย มีความจงใจในอันตาย มีความประสงค์ในอันคาย.
บทว่า โดยหลายนัย คือ โดยอาการมากมาย.
บทว่า พรรณนาคุณในความตายก็ดี ได้แก่ แสดงโทษในความ
เป็นอยู่ พรรณนาคุณในความตายว่า ท่านตายจากโลกนี้แล้ว เบื้องหน้าแต่
ตายเพราะกายแตก จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ จักได้รับบำเรอเพรียบพร้อม
อิ่มเอิบด้วยเบญจกามคุณอันเป็นทิพย์ ในสุคติโลกสวรรค์นั้น.

[185] บทว่า ชักชวนเพื่ออันตรายก็ดี คือชักชวนว่า จงนำมีดมา
จงกินยาพิษ จงแขวนคอตายด้วยเชือก หรือจงโจนลงในบ่อ ในเหว หรือ
ในที่ชัน.
[186] คำว่า แม้ภิกษุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเทียบเดียะภิกษุ
2 รูปแรก.
คำว่า เป็นปาราชิก มีอธิบายว่า ศิลาหนาแตกสองเสี่ยงแล้วเป็น
ของกลับต่อให้ติดสนิทอีกไม่ได้แม้ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกัน จงใจ
พรากกายมนุษย์จากชีวิตแล้ว ย่อมไม่เป็นสมณะ ไม่เป็นเชื้อสายพระศากยบุตร
เพราะเหตุนั้น จึงตรัสว่า เป็นปาราซิก.
บทว่า หาสังวาสมิได้ ความว่า ที่ชื่อว่าสังวาสนั้น ได้แก่กรรมที่
พึงทำร่วมกัน อุเทศที่พึงสวดร่วมกัน ความเป็นผู้มีสิกขาเสมอกัน นั่นชื่อว่า
สังวาส สังวาสนั้นไม่มีกับภิกษุนั้น เพราะเหตุนั้น จึงตรัสว่า หาสังวาสมิได้.

บทภาชนีย์


มาติกา


[187] ทำเอง ยืนอยู่ใกล้ สั่งทูต สั่งทูตต่อ
ทูตไม่สามารถ ทูตไปแล้วกลับมา
ที่ไม่ลับ สำคัญว่าที่ลับ ที่ลับ สำคัญว่าที่ไม่ลับ
ที่ไม่ลับ สำคัญว่าที่ไม่ลับ ที่ลับ สำคัญว่าที่ลับ
พรรณนาด้วยกาย พรรณนาด้วยวาจา
พรรณนาด้วยกายและวาจา พรรณนาด้วยทูต
พรรณนาด้วยหนังสือ หลุมพราง วัตถุที่พิง