เมนู

ภิกษุคิดว่า จักเก็บทรัพย์ที่ตก แล้วทำทรัพย์นั้นให้ตก ต้องอาบัติ
ทุกกฏ มีไถยจิตจับต้องทรัพย์ที่ตก อันได้ราคา 5 มาสก หรือเกินกว่า 5 มาสก
ต้องอาบัติทุกกฏ ทำให้ไหว ต้องอาบัติถุลลัจจัย ให้เคลื่อนจากฐาน ต้อง
อาบัติปาราชิก.

อุปนิธิวิภาค


[109] ที่ชื่อว่า ทรัพย์ที่เขาฝากไว้ ได้แก่ทรัพย์ที่ผู้อื่นให้เก็บไว้.
ภิกษุรับของฝาก เมื่อเจ้าของกล่าวขอคืนว่า จงคืนทรัพย์ให้ข้าพเจ้า
กล่าวปฏิเสธว่า ฉันไม่ได้รับไว้ ต้องอาบัติทุกกฏ ยังความสงสัยให้เกิดแก่
เจ้าของ ต้องอาบัติถุลลัจจัย เจ้าของทอดธุระว่าจะไม่ให้แก่เรา ต้องอาบัติ
ปาราชิก.
ภิกษุฟ้องร้องยังโรงศาล ยังเจ้าของให้แพ้ ต้องอาบัติปาราชิก ภิกษุ
ผู้ฟ้องร้องยังโรงศาล แพ้เจ้าของ ต้องอาบัติถุลลัจจัย.

สุงกฆาตวิภาค


[110] ที่ชื่อว่า ด่านภาษี ได้แก่สถานที่ซึ่งพระเจ้าแผ่นดินทรงตั้ง
ไว้ที่ภูเขาขาดบ้าง ที่ท่าน้ำบ้าง ที่ประตูบ้าง ด้วยทรงกำหนดว่า จงเก็บ
ภาษีแก่บุคคลผู้ผ่านเข้าไปในสถานที่นั้น.
ภิกษุผ่านเข้าไปในด่านภาษีนั้น แล้วมีไถยจิตจับต้องทรัพย์ที่ควรเสีย
ภาษี ซึ่งมีราคา 5 มาสกก็ดี เกินกว่า 5 มาสกก็ดี ต้องอาบัติทุกกฏ ทำให้ไหว
ต้องอาบัติถุลลัจจัย ย่างเท้าก้าวที่ 1 ล่วงด่านภาษีไป ต้องอาบัติถุลลัจจัย
ย่างเท้าที่ 2 ล่วงด่านภาษีไป ต้องอาบัติปาราชิก.

ภิกษุยืนอยู่ภายในด่านภาษี โยนทรัพย์ให้ตกนอกด่านภาษี ต้องอาบัติ
ปาราชิก หลบเลี่ยงภาษี ต้องอาบัติทุกกฏ.

ปาณวิภาค


[111] ที่ชื่อว่า สัตว์มีชีวิต พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสหมายเอามนุษย์
ที่ยังมีลมหายใจ.
ภิกษุมีไถยจิตลูบคลำ ต้องอาบัติทุกกฏ ทำให้ไหว ต้องอาบัติถุลลัจจัย
ให้เคลื่อนจากฐาน ต้องอาบัติปาราชิก.
ภิกษุคิดว่า จักพาให้เดินไป แล้วให้ก้าวเท้าที่ 1 ต้องอาบัติถุลลัจจัย
ให้ก้าวเท้าที่ 2 ต้องอาบัติปาราชิก.

อปทวิภาค


[112] ที่ชื่อว่า สัตว์ไม่มีเท้า ได้แก่ งู ปลา.
ภิกษุมีไถยจิตจับต้องสัตว์ไม่มีเท้า ซึ่งมีราคา 5 มาสก หรือเกินกว่า
5 มาสก ต้องอาบัติทุกกฏ ทำให้ไหว ต้องอาบัติถุลลัจจัย ให้เคลื่อนจากฐาน
ต้องอาบัติปาราชิก.

ทวิปทวิภาค


[113] ที่ชื่อว่า สัตว์ 2 เท้า ได้แก่ คน นก.
ภิกษุมีไถยจิตลูบคลำ ต้องอาบัติทุกกฏ ทำให้ไหว ต้องอาบัติถุลลัจจัย
ให้เคลื่อนจากฐาน ต้องอาบัติปาราชิก.
ภิกษุคิดว่า จักพาให้เดินไป แล้วให้ก้าวเท้าที่ 1 ต้องอาบัติถุลลัจจัย
ให้ก้าวเท้าที่ 2 ต้องอาบัติปาราชิก.