เมนู

หลัง ไว้ในพระนคร 84,000 นครเถิด ดังนี้ ส่วนพระองค์เองได้ทรงเริ่ม
การงานเพื่อประโยชน์แก่อโศกมหาวิหาร ในอโศการาม. พระสงฆ์ได้ให้
พระเถระชื่อว่าอินทคุตตเถระ ผู้มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก สิ้นอาสวะแล้ว
เป็นนวกัมมาธิฏฐายี.* พระเถระได้ยังการงานที่ยังไม่สำเร็จนั้น ๆ ให้แล้วเสร็จ
ด้วยอานุภาพของตน. พระเถระได้ให้การสร้างพระวิหารสำเร็จลง 3 ปีแม้
ด้วยอานุภาพอย่างนั้น.

[พระจ้าอโศกมหาราชทรงทำการฉลองพระวิหาร]


ข่าวสารจากทุก ๆ นคร ได้มาถึงวันเดียวกันนั่นเอง. พวกอำมาตย์
ได้กราบทูลแด่พระราชาว่า ขอเดชะ พระวิหาร 84,000 หลังจากสร้างเสร็จแล้ว.
พระราชา ทรงรับสั่งให้เที่ยวตีกลองประกาศทั่วพระนครว่า ล่วงไป 7 วัน
แต่วันนี้ จักมีการฉลองพระวิหาร ขอให้ประชาชนทั้งหมด จงสมาทานองค์ศีล
8 เตรียมการฉลองพระวิหาร ทั้งภายในพระนคร และภายนอกพระนคร
ล่วงไป 7 วัน แต่การฉลองพระวิหารนั้น พระราชาแวดล้อมด้วยหมู่เสนามี
องค์ 4 นับได้หลายแสน ซึ่งแต่ตัวด้วยเครื่องอลังการทุกอย่าง เสด็จเที่ยวชม
พระนคร ที่มหาชนผู้มีความอุตสาหะประสงค์ตกแต่งพระนคร ได้ตกแต่ง
ประดับประดาแล้ว ให้เป็นเหมือนมีความสง่างามยิ่งกว่าสิริ แห่งราชธานีชื่อ
อมรวดี ในเทวโลก เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระวิหาร ได้ประทับยืนอยู่
ณ ท่ามกลางภิกษุสงฆ์. ก็ภิกษุที่ประชุมกันในขณะนั้นมีประมาณ 80 โกฏิ.
ก็แลพวกนางภิกษุณีมีประมาณเก้าล้านหกแสน. บรรดาภิกษุเหล่านั้น เฉพาะ
ภิกษุผู้เป็นพระขีณาสพนับได้ประมาณแสนรูป. ภิกษุขีณาสพเหล่านั้น ได้มี
ความวิตกข้อนี้ว่า ถ้าพระราชาจะพึงทอดพระเนตรเห็นอธิการ (ทานอันยิ่ง)
* นวกัมมาธิฏฐายี คือผู้ดูแลควบคุมงานก่อสร้างใหม่.


ไม่มีส่วนเหลือของพระองค์ ก็จะพึงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง
ต่อจากนั้น จึงได้ทำปาฏิหาริย์ ชื่อว่าโลกวิวรณ์ (คือการเปิดโลก).

[พระเจ้าอโศกมหาราชทอดพระเนตรเห็นทั่วทั้งชมพูทวีป]


พระราชา ประทับยืนอยู่ที่อโศการามนั้นแล ทรงเหลียวดูตลอดทั้ง
4 ทิศ ได้ทอดพระเนตรเห็นชมพูทวีป ซึ่งมีมหาสมุทรเป็นที่สุดโดยรอบ และ
พระวิหาร 84,000 หลัง ที่รุ่งโรจน์อยู่ด้วยการบูชาในการฉลอดพระวิหารอย่าง
โอฬาร.
ท้าวเธอเมื่อทอดพระเนตรดูสมบัตินั้น ก็ทรงประกอบด้วยปีติปราโมทย์
อย่างโอฬาร ทรงพระดำริว่า ก็มีอยู่หรือที่ปีติปราโมทย์เห็นปานนี้ เคยเกิดขึ้น
แก่ใคร ๆ อื่นบ้าง ? จึงตรัสถามภิกษุสงฆ์ว่า ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ ! ใน
พระศาสนาของพระทศพลโลกนาถเจ้าของเราทั้งหลาย มีใครบ้า ได้สละบริจาค
อย่างมากมาย การบริจาคของใครเล่ายิ่งใหญ่. ภิกษุสงฆ์ได้มอบการวิสัชนา
ปัญหาที่พระราชาตรัสถาม ให้เป็นหน้าที่ของท่านโมคคลีบุตรติสสเถระ. พระ-
เถระถวายพระพรว่า มหาบพิตร ! ขึ้นชื่อว่าผู้ถวายปัจจัย ในพระศาสนาของ
พระทศพลเช่นกับพระองค์ ในเมื่อพระตถาคตเจ้าแม้ยังทรงพระชนม์อยู่ ไม่มี
ใครเลย พระองค์เท่านั้น ทรงมีการบริจาคยิ่งใหญ่.

[พระเจ้าอโศกยังไม่เป็นทายาทแห่งพระศาสนา]


พระราชา ทรงสดับคำของพระเถระแล้ว ได้มีพระวรกายอันปีติ
ปราโมทย์อย่างโอฬารถูกต้องแล้ว หาระหว่างมิได้ จึงทรงพระดำริว่า ได้ยินว่า
ผู้ที่ถวายปัจจัยเช่นกับเรา ไม่มี ได้ยินว่า เรามีการบริจาคยิ่งใหญ่ ได้ยินว่า
เรากำลังยกย่องเชิดชูพระศาสนา ด้วยไทยธรรม ก็เมื่อเป็นอย่างนี้ เราจะได้