‘‘นาสิสฺสํ น ปิวิสฺสามิ, วิหารา จ น นิกฺขเม;
นปิ ปสฺสํ นิปาเตสฺสํ, ตณฺหาสลฺเล อนูหเตฯ
[314]
‘‘ตสฺส เมวํ วิหรโต, ปสฺส วีริยปรกฺกมํ;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
… มุทิโต เถโร…ฯ
จตุกฺกนิปาโต นิฏฺฐิโตฯ
ตตฺรุทฺทานํ –
นาคสมาโล ภคุ จ, สภิโย นนฺทโกปิ จ;
ชมฺพุโก เสนโก เถโร, สมฺภูโต ราหุโลปิ จฯ
ภวติ จนฺทโน เถโร, ทเสเต [อิทานิ นเวว เถรา ทิสฺสนฺติ] พุทฺธสาวกา;
ธมฺมิโก สปฺปโก เถโร, มุทิโต จาปิ เต ตโย;
คาถาโย ทฺเว จ ปญฺญาส, เถรา สพฺเพปิ เตรสาติ [อิทานิ ทฺวาทเสว เถรา ทิสฺสนฺติ]ฯ
5. ปญฺจกนิปาโต
1. ราชทตฺตตฺเถรคาถา
[315]
‘‘ภิกฺขุ สิวถิกํ [สีวถิกํ (สี. สฺยา. ปี.)] คนฺตฺวา, อทฺทส อิตฺถิมุชฺฌิตํ;
อปวิทฺธํ สุสานสฺมิํ, ขชฺชนฺติํ กิมิหี ผุฏํฯ
[316]
‘‘ยญฺหิ เอเก ชิคุจฺฉนฺติ, มตํ ทิสฺวาน ปาปกํ;
กามราโค ปาตุรหุ, อนฺโธว สวตี [วสตี (สี.)] อหุํฯ
[317]
‘‘โอรํ โอทนปากมฺหา, ตมฺหา ฐานา อปกฺกมิํ;
สติมา สมฺปชาโนหํ, เอกมนฺตํ อุปาวิสิํฯ
[318]
‘‘ตโต เม มนสีกาโร, โยนิโส อุทปชฺชถ;
อาทีนโว ปาตุรหุ, นิพฺพิทา สมติฏฺฐถฯ
[319]
‘‘ตโต จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม, ปสฺส ธมฺมสุธมฺมตํ;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
… ราชทตฺโต เถโร…ฯ
2. สุภูตตฺเถรคาถา
[320]
‘‘อโยเค ยุญฺชมตฺตานํ, ปุริโส กิจฺจมิจฺฉโก [กิจฺจมิจฺฉโต (สี.), กิจฺจมิจฺฉยํ (กตฺถจิ)];
จรํ เจ นาธิคจฺเฉยฺย, ‘ตํ เม ทุพฺภคลกฺขณํ’ฯ
[321]
‘‘อพฺพูฬฺหํ อฆคตํ วิชิตํ, เอกญฺเจ โอสฺสเชยฺย กลีว สิยา;
สพฺพานิปิ เจ โอสฺสเชยฺย อนฺโธว สิยา, สมวิสมสฺส อทสฺสนโตฯ
[322]
‘‘ยญฺหิ กยิรา ตญฺหิ วเท, ยํ น กยิรา น ตํ วเท;
อกโรนฺตํ ภาสมานํ, ปริชานนฺติ ปณฺฑิตาฯ
[323]
[ธ. ป. 51 ธมฺมปเทปิ] ‘‘ยถาปิ รุจิรํ ปุปฺผํ, วณฺณวนฺตํ อคนฺธกํ;
เอวํ สุภาสิตา วาจา, อผลา โหติ อกุพฺพโตฯ
[324]