‘‘หํสา จิเม ทสฺสนียา มโนรมา, อุทกสฺมิมนุปริยนฺติ สพฺพทา;
สมยฺย วคฺคูปนทนฺติ สพฺเพ, พินฺทุสฺสรา ทุนฺทุภีนํว โฆโสฯ
[443]
‘‘ททฺทลฺลมานา ยสสา ยสสฺสินี, นาวาย จ ตฺวํ อวลมฺพ ติฏฺฐสิ;
อาฬารปมฺเห หสิเต ปิยํวเท, สพฺพงฺคกลฺยาณิ ภุสํ วิโรจสิฯ
[444]
‘‘อิทํ วิมานํ วิรชํ สเม ฐิตํ, อุยฺยานวนฺตํ [อุยฺยานวนํ (ก.)] รตินนฺทิวฑฺฒนํ;
อิจฺฉามหํ นาริ อโนมทสฺสเน, ตยา สห นนฺทเน อิธ โมทิตุ’’นฺติฯ
[445]
‘‘กโรหิ กมฺมํ อิธ เวทนียํ, จิตฺตญฺจ เต อิธ นิหิตํ ภวตุ [นตญฺจ โหตุ (ก.), นิตญฺจ โหตุ (สฺยา.)];
กตฺวาน กมฺมํ อิธ เวทนียํ, เอวํ มมํ ลจฺฉสิ กามกามินิ’’นฺติฯ
[446]
‘‘สาธู’’ติ โส ตสฺสา ปฏิสฺสุณิตฺวา, อกาสิ กมฺมํ ตหิํ เวทนียํ;
กตฺวาน กมฺมํ ตหิํ เวทนียํ, อุปปชฺชิ โส มาณโว ตสฺสา สหพฺยตนฺติฯ
รถการเปติวตฺถุ ตติยํฯ
ภาณวารํ ทุติยํ นิฏฺฐิตํฯ
4. ภุสเปตวตฺถุ
[447]
‘‘ภุสานิ เอโก สาลิํ ปุนาปโร, อยญฺจ นารี สกมํสโลหิตํ;
ตุวญฺจ คูถํ อสุจิํ อกนฺตํ [อกนฺติกํ (สี. ปี.)], ปริภุญฺชสิ กิสฺส อยํ วิปาโก’’ติฯ
[448]