‘‘‘อทาสิ เม อกาสิ เม, ญาติ มิตฺตา [ญาติ มิตฺโต (?)] สขา จ เม;
เปตานํ ทกฺขิณํ ทชฺชา, ปุพฺเพ กตมนุสฺสรํ’ฯ
[23]
‘‘‘น หิ รุณฺณํ วา โสโก วา, ยา จญฺญา ปริเทวนา;
น ตํ เปตานมตฺถาย, เอวํ ติฏฺฐนฺติ ญาตโย’ฯ
[24]
‘‘‘อยญฺจ โข ทกฺขิณา ทินฺนา, สงฺฆมฺหิ สุปฺปติฏฺฐิตา;
ทีฆรตฺตํ หิตายสฺส, ฐานโส อุปกปฺปติ’ฯ
[25]
‘‘โส ญาติธมฺโม จ อยํ นิทสฺสิโต, เปตาน ปูชา จ กตา อุฬารา;
พลญฺจ ภิกฺขูนมนุปฺปทินฺนํ, ตุมฺเหหิ ปุญฺญํ ปสุตํ อนปฺปก’’นฺติฯ
ติโรกุฏฺฏเปตวตฺถุ ปญฺจมํฯ
6. ปญฺจปุตฺตขาทเปติวตฺถุ
[26]
‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ, ทุคฺคนฺธา ปูติ วายสิ;
มกฺขิกาหิ ปริกิณฺณา [มกฺขิกาปริกิณฺณา จ (สี.)], กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺฐสี’’ติฯ
[27]
‘‘อหํ ภทนฺเต [ภทฺทนฺเต (ก.)] เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตาฯ
[28]
‘‘กาเลน ปญฺจ ปุตฺตานิ, สายํ ปญฺจ ปุนาปเร;
วิชายิตฺวาน ขาทามิ, เตปิ นา โหนฺติ เม อลํฯ
[29]
‘‘ปริฑยฺหติ ธูมายติ, ขุทาย [ขุทฺทาย (ก.)] หทยํ มม;
ปานียํ น ลเภ ปาตุํ, ปสฺส มํ พฺยสนํ คต’’นฺติฯ
[30]
‘‘กิํ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, ปุตฺตมํสานิ ขาทสี’’ติฯ
[31]
‘‘สปตี [สปตฺตี (สี.)] เม คพฺภินี อาสิ, ตสฺสา ปาปํ อเจตยิํ;
สาหํ ปทุฏฺฐมนสา, อกริํ คพฺภปาตนํฯ
[32]