‘‘เอตํ เต ปรโลกสฺมิํ, โลหิตํ โหตุ อุตฺตร;
ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน, คงฺคา เม โหติ โลหิต’’นฺติฯ
อุตฺตรมาตุเปติวตฺถุ ทสมํฯ
11. สุตฺตเปตวตฺถุ
[341]
‘‘อหํ ปุเร ปพฺพชิตสฺส ภิกฺขุโน, สุตฺตํ อทาสิํ อุปสงฺกมฺม ยาจิตา;
ตสฺส วิปาโก วิปุลผลูปลพฺภติ, พหุกา จ เม อุปฺปชฺชเร [พหู จ เม อุปปชฺชเร (สี.)] วตฺถโกฏิโยฯ
[342]
‘‘ปุปฺผาภิกิณฺณํ รมิตํ [รมฺมมิทํ (ก.)] วิมานํ, อเนกจิตฺตํ นรนาริเสวิตํ;
สาหํ ภุญฺชามิ จ ปารุปามิ จ, ปหูตวิตฺตา น จ ตาว ขียติฯ
[343]
‘‘ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากมนฺวยา, สุขญฺจ สาตญฺจ อิธูปลพฺภติ;
สาหํ คนฺตฺวา ปุนเทว มานุสํ, กาหามิ ปุญฺญานิ นยยฺยปุตฺต ม’’นฺติฯ
[344]
‘‘สตฺต ตุวํ วสฺสสตา อิธาคตา,
ชิณฺณา จ วุฑฺฒา จ ตหิํ ภวิสฺสสิ;
สพฺเพว เต กาลกตา จ ญาตกา,
กิํ ตตฺถ คนฺตฺวาน อิโต กริสฺสสี’’ติฯ
[345]
‘‘สตฺเตว วสฺสานิ อิธาคตาย เม, ทิพฺพญฺจ สุขญฺจ สมปฺปิตาย;
สาหํ คนฺตฺวาน ปุนเทว มานุสํ, กาหามิ ปุญฺญานิ นยยฺยปุตฺต ม’’นฺติฯ
[346]
โส ตํ คเหตฺวาน ปสยฺห พาหายํ, ปจฺจานยิตฺวาน เถริํ สุทุพฺพลํ;
‘‘วชฺเชสิ อญฺญมฺปิ ชนํ อิธาคตํ, ‘กโรถ ปุญฺญานิ สุขูปลพฺภติ’’ฯ
[347]