สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเฐ , วิปาโก อุทปชฺชถ;
โภชนจฺฉาทนปานียํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํฯ
[161]
ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;
วิจิตฺตวตฺถาภรณา, สปตฺติํ อุปสงฺกมิฯ
[162]
‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺฐสิ เทวเต;
โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกาฯ
[163]
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยาฯ
[164]
‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุญฺญํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ
[165]
‘‘อหํ มตฺตา ตุวํ ติสฺสา, สปตฺตี เต ปุเร อหุํ;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตาฯ
[166]
‘‘ตว ทินฺเนน ทาเนน, โมทามิ อกุโตภยา;
จีรํ ชีวาหิ ภคินิ, สห สพฺเพหิ ญาติภิ;
อโสกํ วิรชํ ฐานํ, อาวาสํ วสวตฺตินํฯ
[167]
‘‘อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ทานํ ทตฺวาน โสภเน;
วิเนยฺย มจฺเฉรมลํ สมูลํ, อนินฺทิตา สคฺคมุเปหิ ฐาน’’นฺติฯ
มตฺตาเปติวตฺถุ ตติยํฯ
4. นนฺทาเปติวตฺถุ
[168]
‘‘กาฬี ทุพฺพณฺณรูปาสิ, ผรุสา ภีรุทสฺสนา;
ปิงฺคลาสิ กฬาราสิ, น ตํ มญฺญามิ มานุสิ’’นฺติฯ
[169]
‘‘อหํ นนฺทา นนฺทิเสน, ภริยา เต ปุเร อหุํ;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติฯ
[170]
‘‘กิํ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติฯ
[171]
‘‘จณฺฑี จ ผรุสา จาสิํ [จณฺฑี ผรุสวาจา จ (สี.)], ตยิ จาปิ อคารวา;
ตาหํ ทุรุตฺตํ วตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติฯ
[172]
‘‘หนฺทุตฺตรียํ ททามิ เต, อิมํ [อิทํ (สี. อฏฺฐ.)] ทุสฺสํ นิวาสย;
อิมํ ทุสฺสํ นิวาเสตฺวา, เอหิ เนสฺสามิ ตํ ฆรํฯ
[173]
‘‘วตฺถญฺจ อนฺนปานญฺจ, ลจฺฉสิ ตฺวํ ฆรํ คตา;
ปุตฺเต จ เต ปสฺสิสฺสสิ, สุณิสาโย จ ทกฺขสี’’ติฯ
[174]
‘‘หตฺเถน หตฺเถ เต ทินฺนํ, น มยฺหํ อุปกปฺปติ;
ภิกฺขู จ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเตฯ
[175]
‘‘ตปฺเปหิ อนฺนปาเนน, มม ทกฺขิณมาทิส;
ตทาหํ สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติฯ
[176]
สาธูติ โส ปฏิสฺสุตฺวา, ทานํ วิปุลมากิริ;
อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
ฉตฺตํ คนฺธญฺจ มาลญฺจ, วิวิธา จ อุปาหนาฯ
[177]
ภิกฺขู จ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต;
ตปฺเปตฺวา อนฺนปาเนน, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสีฯ
[178]
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเฐ , วิปาโก อุทปชฺชถ;
โภชนจฺฉาทนปานียํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํฯ
[179]
ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;
วิจิตฺตวตฺถาภรณา, สามิกํ อุปสงฺกมิฯ
[180]
‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺฐสิ เทวเต;
โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกาฯ
[181]
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยาฯ
[182]
‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุญฺญํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ
[183]
‘‘อหํ นนฺทา นนฺทิเสน, ภริยา เต ปุเร อหุํ;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตาฯ
[184]
‘‘ตว ทินฺเนน ทาเนน, โมทามิ อกุโตภยา;
จิรํ ชีว คหปติ, สห สพฺเพหิ ญาติภิ;
อโสกํ วิรชํ เขมํ, อาวาสํ วสวตฺตินํฯ
[185]
‘‘อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ทานํ ทตฺวา คหปติ;
วิเนยฺย มจฺเฉรมลํ สมูลํ, อนินฺทิโต สคฺคมุเปหิ ฐาน’’นฺติฯ
นนฺทาเปติวตฺถุ จตุตฺถํฯ
5. มฏฺฐกุณฺฑลีเปตวตฺถุ
[186]
[วิ. ว. 1207] ‘‘อลงฺกโต มฏฺฐกุณฺฑลี, มาลธารี หริจนฺทนุสฺสโท;
พาหา ปคฺคยฺห กนฺทสิ, วนมชฺเฌ กิํ ทุกฺขิโต ตุว’’นฺติฯ
[187]
‘‘โสวณฺณมโย ปภสฺสโร, อุปฺปนฺโน รถปญฺชโร มม;
ตสฺส จกฺกยุคํ น วินฺทามิ, เตน ทุกฺเขน ชหามิ ชีวิต’’นฺติฯ
[188]
‘‘โสวณฺณมยํ มณิมยํ, โลหิตกมยํ [โลหิตงฺคมยํ (สฺยา.), โลหิตงฺกมยํ (สี.), โลหมยํ (กตฺถจิ)] อถ รูปิยมยํ;
อาจิกฺข เม ภทฺทมาณว, จกฺกยุคํ ปฏิปาทยามิ เต’’ติฯ
[189]