‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺฐสิ เทวเต;
โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกาฯ
[127]
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยาฯ
[128]
‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุญฺญํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ
[129]
‘‘สาริปุตฺตสฺสาหํ มาตา, ปุพฺเพ อญฺญาสุ ชาตีสุ;
อุปปนฺนา เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิตาฯ
[130]
‘‘ฉฑฺฑิตํ ขิปิตํ เขฬํ, สิงฺฆาณิกํ สิเลสุมํ;
วสญฺจ ฑยฺหมานานํ, วิชาตานญฺจ โลหิตํฯ
[131]
‘‘วณิกานญฺจ ยํ ฆาน-สีสจฺฉินฺนาน โลหิตํ;
ขุทาปเรตา ภุญฺชามิ, อิตฺถิปุริสนิสฺสิตํฯ
[132]
‘‘ปุพฺพโลหิตํ ภกฺขิสฺสํ, ปสูนํ มานุสาน จ;
อเลณา อนคารา จ, นีลมญฺจปรายณาฯ
[133]
‘‘สาริปุตฺตสฺส ทาเนน, โมทามิ อกุโตภยา;
มุนิํ การุณิกํ โลเก, ภนฺเต วนฺทิตุมาคตา’’ติฯ
สาริปุตฺตตฺเถรสฺส มาตุเปติวตฺถุ ทุติยํฯ
3. มตฺตาเปติวตฺถุ
[134]
‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;
อุปฺผาสุลิเก กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺฐสี’’ติฯ
[135]
‘‘อหํ มตฺตา ตุวํ ติสฺสา, สปตฺตี เต ปุเร อหุํ;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติฯ
[136]
‘‘กิํ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติฯ
[137]