1. สํสารโมจกเปติวตฺถุ
[95]
‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;
อุปฺผาสุลิเก [อุปฺปาสุฬิเก (ก.)] กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺฐสี’’ติฯ
[96]
‘‘อหํ ภทนฺเต เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติฯ
[97]
‘‘กิํ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติฯ
[98]
‘‘อนุกมฺปกา มยฺหํ นาเหสุํ ภนฺเต, ปิตา จ มาตา อถวาปิ ญาตกา;
เย มํ นิโยเชยฺยุํ ททาหิ ทานํ, ปสนฺนจิตฺตา สมณพฺราหฺมณานํฯ
[99]
‘‘อิโต อหํ วสฺสสตานิ ปญฺจ, ยํ เอวรูปา วิจรามิ นคฺคา;
ขุทาย ตณฺหาย จ ขชฺชมานา, ปาปสฺส กมฺมสฺส ผลํ มเมทํฯ
[100]
‘‘วนฺทามิ ตํ อยฺย ปสนฺนจิตฺตา, อนุกมฺป มํ วีร มหานุภาว;
ทตฺวา จ เม อาทิส ยํ หิ กิญฺจิ, โมเจหิ มํ ทุคฺคติยา ภทนฺเต’’ติฯ
[101]
สาธูติ โส ปฏิสฺสุตฺวา, สาริปุตฺโตนุกมฺปโก;
ภิกฺขูนํ อาโลปํ ทตฺวา, ปาณิมตฺตญฺจ โจฬกํ;
ถาลกสฺส จ ปานียํ, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสิฯ
[102]
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเฐ, วิปาโก อุทปชฺชถ;
โภชนจฺฉาทนปานียํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํฯ
[103]