ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ
ขุทฺทกนิกาเย
เปตวตฺถุปาฬิ
1. อุรควคฺโค
1. เขตฺตูปมเปตวตฺถุ
[1]
‘‘เขตฺตูปมา อรหนฺโต, ทายกา กสฺสกูปมา;
พีชูปมํ เทยฺยธมฺมํ, เอตฺโต นิพฺพตฺตเต ผลํฯ
[2]
‘‘เอตํ พีชํ กสิ เขตฺตํ, เปตานํ ทายกสฺส จ;
ตํ เปตา ปริภุญฺชนฺติ, ทาตา ปุญฺเญน วฑฺฒติฯ
[3]
‘‘อิเธว กุสลํ กตฺวา, เปเต จ ปฏิปูชิย;
สคฺคญฺจ กมติ [คมติ (ก.)] ฏฺฐานํ, กมฺมํ กตฺวาน ภทฺทก’’นฺติฯ
เขตฺตูปมเปตวตฺถุ ปฐมํฯ
2. สูกรมุขเปตวตฺถุ
[4]
‘‘กาโย เต สพฺพโสวณฺโณ, สพฺพา โอภาสเต ทิสา;
มุขํ เต สูกรสฺเสว, กิํ กมฺมมกรี ปุเร’’ [มกรา ปุเร (ก.)]ฯ
[5]
‘‘กาเยน สญฺญโต อาสิํ, วาจายาสิมสญฺญโต;
เตน เมตาทิโส วณฺโณ, ยถา ปสฺสสิ นารทฯ
[6]
‘‘ตํ ตฺยาหํ [ตาหํ (ก.)] นารท พฺรูมิ, สามํ ทิฏฺฐมิทํ ตยา;
มากาสิ มุขสา ปาปํ, มา โข สูกรมุโข อหู’’ติฯ
สูกรมุขเปตวตฺถุ ทุติยํฯ
3. ปูติมุขเปตวตฺถุ
[7]
‘‘ทิพฺพํ สุภํ ธาเรสิ วณฺณธาตุํ, เวหายสํ ติฏฺฐสิ อนฺตลิกฺเข;
มุขญฺจ เต กิมโย ปูติคนฺธํ, ขาทนฺติ กิํ กมฺมมกาสิ ปุพฺเพ’’ฯ
[8]
‘‘สมโณ อหํ ปาโปติทุฏฺฐวาโจ [ปาโป ทุฏฺฐวาโจ (สี.), ปาโป ทุกฺขวาโจ (สฺยา. ปี.)], ตปสฺสิรูโป มุขสา อสญฺญโต;
ลทฺธา จ เม ตปสา วณฺณธาตุ, มุขญฺจ เม เปสุณิเยน ปูติฯ
[9]
‘‘ตยิทํ ตยา นารท สามํ ทิฏฺฐํ,
อนุกมฺปกา เย กุสลา วเทยฺยุํ;
‘มา เปสุณํ มา จ มุสา อภาณิ,
ยกฺโข ตุวํ โหหิสิ กามกามี’’’ติฯ
ปูติมุขเปตวตฺถุ ตติยํฯ
4. ปิฏฺฐธีตลิกเปตวตฺถุ
[10]
‘‘ยํ กิญฺจารมฺมณํ กตฺวา, ทชฺชา ทานํ อมจฺฉรี;
ปุพฺพเปเต จ อารพฺภ, อถ วา วตฺถุเทวตาฯ
[11]
‘‘จตฺตาโร จ มหาราเช, โลกปาเล ยสสฺสิเน [ยสสฺสิโน (สี. สฺยา.)];
กุเวรํ ธตรฏฺฐญฺจ, วิรูปกฺขํ วิรูฬฺหกํ;
เต เจว ปูชิตา โหนฺติ, ทายกา จ อนิปฺผลาฯ
[12]