‘‘อทฺทสํ วิรชํ ภิกฺขุํ, วิปฺปสนฺนมนาวิลํ;
ตสฺส อทาสหํ สูจิํ, ปสนฺโน เสหิ ปาณิภิฯ
[959]
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป.…วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ
ทุติยสูจิวิมานํ นวมํฯ
10. ปฐมนาควิมานวตฺถุ
[961]
‘‘สุสุกฺกขนฺธํ อภิรุยฺห นาคํ, อกาจินํ ทนฺติํ พลิํ มหาชวํ;
อภิรุยฺห คชวรํ [คชํ วรํ (สฺยา.)] สุกปฺปิตํ, อิธาคมา เวหายสํ อนฺตลิกฺเขฯ
[962]
‘‘นาคสฺส ทนฺเตสุ ทุเวสุ นิมฺมิตา, อจฺโฉทกา ปทุมินิโย สุผุลฺลา;
ปทุเมสุ จ ตุริยคณา ปวชฺชเร, อิมา จ นจฺจนฺติ มโนหราโยฯ
[963]
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปุญฺญํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ
[964]
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน, โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิโต;
ปญฺหํ ปุฏฺโฐ วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํฯ
[965]
‘‘อฏฺเฐว มุตฺตปุปฺผานิ, กสฺสปสฺส มเหสิโน [ภควโต (สฺยา. ก.)];
ถูปสฺมิํ อภิโรเปสิํ, ปสนฺโน เสหิ ปาณิภิฯ
[966]
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป.…วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ
ปฐมนาควิมานํ ทสมํฯ
11. ทุติยนาควิมานวตฺถุ
[968]
‘‘มหนฺตํ นาคํ อภิรุยฺห, สพฺพเสตํ คชุตฺตมํ;
วนา วนํ อนุปริยาสิ, นารีคณปุรกฺขโต;
โอภาเสนฺโต ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกาฯ
[969]
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ…เป.…วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ
[971]
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน, วงฺคีเสเนว ปุจฺฉิโต;
ปญฺหํ ปุฏฺโฐ วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํฯ
[972]
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, อุปาสโก จกฺขุมโต อโหสิํ;
ปาณาติปาตา วิรโต อโหสิํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยิสฺสํฯ
[973]
‘‘อมชฺชโป โน จ มุสา อภาณิํ [อภาสิํ (สี. ก.)], สเกน ทาเรน จ ตุฏฺโฐ อโหสิํ;
อนฺนญฺจ ปานญฺจ ปสนฺนจิตฺโต, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทาสิํฯ
[974]
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป.…วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ
ทุติยนาควิมานํ เอกาทสมํฯ
12. ตติยนาควิมานวตฺถุ
[976]
‘‘โก นุ ทิพฺเพน ยาเนน, สพฺพเสเตน หตฺถินา;
ตุริยตาฬิตนิคฺโฆโส, อนฺตลิกฺเข มหียติฯ
[977]
‘‘เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ [อาทุ (สี. สฺยา.)] สกฺโก ปุรินฺทโท;
อชานนฺตา ตํ ปุจฺฉาม, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติฯ
[978]