3. นาควิมานวตฺถุ
[705]
‘‘อลงฺกตา มณิกญฺจนาจิตํ, โสวณฺณชาลจิตํ มหนฺตํ;
อภิรุยฺห คชวรํ สุกปฺปิตํ, อิธาคมา เวหายสํ [เวหาสยํ (สี.)] อนฺตลิกฺเขฯ
[706]
‘‘นาคสฺส ทนฺเตสุ ทุเวสุ นิมฺมิตา, อจฺโฉทกา [อจฺโฉทิกา (สี. ก.)] ปทุมินิโย สุผุลฺลา;
ปทุเมสุ จ ตุริยคณา ปภิชฺชเร, อิมา จ นจฺจนฺติ มโนหราโยฯ
[707]
‘‘เทวิทฺธิปตฺตาสิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุญฺญํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ
[708]
‘‘พาราณสิยํ อุปสงฺกมิตฺวา, พุทฺธสฺสหํ วตฺถยุคํ อทาสิํ;
ปาทานิ วนฺทิตฺวา [วนฺทิตฺว (สี.)] ฉมา นิสีทิํ, วิตฺตา จหํ อญฺชลิกํ อกาสิํฯ
[709]
‘‘พุทฺโธ จ เม กญฺจนสนฺนิภตฺตโจ, อเทสยิ สมุทยทุกฺขนิจฺจตํ;
อสงฺขตํ ทุกฺขนิโรธสสฺสตํ, มคฺคํ อเทสยิ [อเทเสสิ (สี.)] ยโต วิชานิสํ;
[710]
‘‘อปฺปายุกี กาลกตา ตโต จุตา, อุปปนฺนา ติทสคณํ ยสสฺสินี;
สกฺกสฺสหํ อญฺญตรา ปชาปติ, ยสุตฺตรา นาม ทิสาสุ วิสฺสุตา’’ติฯ
นาควิมานํ ตติยํฯ