ตสฺสุทฺทานํ –
อุฬาโร อุจฺฉุ ปลฺลงฺโก, ลตา จ คุตฺติเลน จ;
ททฺทลฺลเปสมลฺลิกา, วิสาลกฺขิ ปาริจฺฉตฺตโก;
วคฺโค เตน ปวุจฺจตีติฯ
4. มญฺชิฏฺฐกวคฺโค
1. มญฺชิฏฺฐกวิมานวตฺถุ
[689]
‘‘มญฺชิฏฺฐเก [มญฺเชฏฺฐเก (สี.)] วิมานสฺมิํ, โสณฺณวาลุกสนฺถเต [โสวณฺณวาลุกสนฺถเต (สฺยา. ปี.), โสวณฺณวาลิกสนฺถเต (ก.)];
ปญฺจงฺคิเก ตุริเยน [ตุริเยน (สี. สฺยา. ปี.)], รมสิ สุปฺปวาทิเตฯ
[690]
‘‘ตมฺหา วิมานา โอรุยฺห, นิมฺมิตา รตนามยา;
โอคาหสิ สาลวนํ, ปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํฯ
[691]
‘‘ยสฺส ยสฺเสว สาลสฺส, มูเล ติฏฺฐสิ เทวเต;
โส โส มุญฺจติ ปุปฺผานิ, โอนมิตฺวา ทุมุตฺตโมฯ
[692]
‘‘วาเตริตํ สาลวนํ, อาธุตํ [อาธูตํ (สี.)] ทิชเสวิตํ;
วาติ คนฺโธ ทิสา สพฺพา, รุกฺโข มญฺชูสโก ยถาฯ
[693]
‘‘ฆายเส ตํ สุจิคนฺธํ, รูปํ ปสฺสสิ อมานุสํ;
เทวเต ปุจฺฉิตาจิกฺข, กิสฺส กมฺมสฺสิทํ ผล’’นฺติฯ
[694]
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูตา, ทาสี อยิรกุเล [อยฺยิรกุเล (สฺยา. ก.)] อหุํ;
พุทฺธํ นิสินฺนํ ทิสฺวาน, สาลปุปฺเผหิ โอกิริํฯ
[695]
‘‘วฏํสกญฺจ สุกตํ, สาลปุปฺผมยํ อหํ;
พุทฺธสฺส อุปนาเมสิํ, ปสนฺนา เสหิ ปาณิภิฯ
[696]
‘‘ตาหํ กมฺมํ กริตฺวาน, กุสลํ พุทฺธวณฺณิตํ;
อเปตโสกา สุขิตา, สมฺปโมทามนามยา’’ติฯ
มญฺชิฏฺฐกวิมานํ ปฐมํฯ
2. ปภสฺสรวิมานวตฺถุ
[697]
‘‘ปภสฺสรวรวณฺณนิเภ , สุรตฺตวตฺถวสเน [วตฺถนิวาสเน (สี. สฺยา.)];
มหิทฺธิเก จนฺทนรุจิรคตฺเต, กา ตฺวํ สุเภ เทวเต วนฺทเส มมํฯ
[698]
‘‘ปลฺลงฺโก จ เต มหคฺโฆ, นานารตนจิตฺติโต รุจิโร;
ยตฺถ ตฺวํ นิสินฺนา วิโรจสิ, เทวราชาริว นนฺทเน วเนฯ
[699]
‘‘กิํ ตฺวํ ปุเร สุจริตมาจรี ภทฺเท, กิสฺส กมฺมสฺส วิปากํ;
อนุโภสิ เทวโลกสฺมิํ, เทวเต ปุจฺฉิตาจิกฺข;
กิสฺส กมฺมสฺสิทํ ผล’’นฺติฯ
[700]
‘‘ปิณฺฑาย เต จรนฺตสฺส, มาลํ ผาณิตญฺจ อททํ ภนฺเต;
ตสฺส กมฺมสฺสิทํ วิปากํ, อนุโภมิ เทวโลกสฺมิํฯ
[701]
‘‘โหติ จ เม อนุตาโป, อปรทฺธํ [อปราธํ (สฺยา.)] ทุกฺขิตญฺจ [ทุกฺกฏญฺจ (สี.)] เม ภนฺเต;
สาหํ ธมฺมํ นาสฺโสสิํ, สุเทสิตํ ธมฺมราเชนฯ
[702]
‘‘ตํ ตํ วทามิ ภทฺทนฺเต, ‘ยสฺส เม อนุกมฺปิโย โกจิ;
ธมฺเมสุ ตํ สมาทเปถ’, สุเทสิตํ ธมฺมราเชนฯ
[703]
‘‘เยสํ อตฺถิ สทฺธา พุทฺเธ, ธมฺเม จ สงฺฆรตเน;
เต มํ อติวิโรจนฺติ, อายุนา ยสสา สิริยาฯ
[704]
‘‘ปตาเปน วณฺเณน อุตฺตริตรา,
อญฺเญ มหิทฺธิกตรา มยา เทวา’’ติ;
ปภสฺสรวิมานํ ทุติยํฯ