9. วิสาลกฺขิวิมานวตฺถุ
[666]
‘‘กา นาม ตฺวํ วิสาลกฺขิ [วิสาลกฺขี (สฺยา.)], รมฺเม จิตฺตลตาวเน;
สมนฺตา อนุปริยาสิ, นารีคณปุรกฺขตา [ปุรกฺขิตา (สฺยา. ก.)]ฯ
[667]
‘‘ยทา เทวา ตาวติํสา, ปวิสนฺติ อิมํ วนํ;
สโยคฺคา สรถา สพฺเพ, จิตฺรา โหนฺติ อิธาคตาฯ
[668]
‘‘ตุยฺหญฺจ อิธ ปตฺตาย, อุยฺยาเน วิจรนฺติยา;
กาเย น ทิสฺสตี จิตฺตํ, เกน รูปํ ตเวทิสํ;
เทวเต ปุจฺฉิตาจิกฺข, กิสฺส กมฺมสฺสิทํ ผล’’นฺติฯ
[669]
‘‘เยน กมฺเมน เทวินฺท, รูปํ มยฺหํ คตี จ เม;
อิทฺธิ จ อานุภาโว จ, ตํ สุโณหิ ปุรินฺททฯ
[670]
‘‘อหํ ราชคเห รมฺเม, สุนนฺทา นามุปาสิกา;
สทฺธา สีเลน สมฺปนฺนา, สํวิภาครตา สทาฯ
[671]
‘‘อจฺฉาทนญฺจ ภตฺตญฺจ, เสนาสนํ ปทีปิยํ;
อทาสิํ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสาฯ
[672]
‘‘จาตุทฺทสิํ [จตุทฺทสิํ (ปี. ก.)] ปญฺจทสิํ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺฐมี;
ปาฏิหาริยปกฺขญฺจ, อฏฺฐงฺคสุสมาคตํฯ
[673]
‘‘อุโปสถํ อุปวสิสฺสํ, สทา สีเลสุ สํวุตา;
สญฺญมา สํวิภาคา จ, วิมานํ อาวสามหํฯ
[674]
‘‘ปาณาติปาตา วิรตา, มุสาวาทา จ สญฺญตา;
เถยฺยา จ อติจารา จ, มชฺชปานา จ อารกาฯ
[675]
‘‘ปญฺจสิกฺขาปเท รตา, อริยสจฺจาน โกวิทา;
อุปาสิกา จกฺขุมโต, โคตมสฺส ยสสฺสิโนฯ
[676]
‘‘ตสฺสา เม ญาติกุลา ทาสี [ญาติกุลํ อาสี (สฺยา. ก.)], สทา มาลาภิหารติ;
ตาหํ ภควโต ถูเป, สพฺพเมวาภิโรปยิํฯ
[677]
‘‘อุโปสเถ จหํ คนฺตฺวา, มาลาคนฺธวิเลปนํ;
ถูปสฺมิํ อภิโรเปสิํ, ปสนฺนา เสหิ ปาณิภิฯ
[678]