‘‘ตํ เม พุทฺโธ วิยากาสิ, ชานํ กมฺมผลํ สกํ;
วิปากํ สํวิภาคสฺส, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํฯ
[641]
[วิ. ว. 750; กถา. 798] ‘‘จตฺตาโร จ ปฏิปนฺนา, จตฺตาโร จ ผเล ฐิตา;
เอส สงฺโฆ อุชุภูโต, ปญฺญาสีลสมาหิโตฯ
[642]
[วิ. ว. 751; กถา. 798] ‘‘ยชมานานํ มนุสฺสานํ, ปุญฺญเปกฺขาน ปาณินํ;
กโรตํ โอปธิกํ ปุญฺญํ, สงฺเฆ ทินฺนํ มหปฺผลํฯ
[643]
[วิ. ว. 752; กถา. 798] ‘‘เอโส หิ สงฺโฆ วิปุโล มหคฺคโต, เอสปฺปเมยฺโย อุทธีว สาคโร;
เอเต หิ เสฏฺฐา นรวีรสาวกา, ปภงฺกรา ธมฺมมุทีรยนฺติ [ธมฺมกถํ อุทีรยนฺติ (สฺยา.)]ฯ
[644]
[วิ. ว. 753; กถา. 798] ‘‘เตสํ สุทินฺนํ สุหุตํ สุยิฏฺฐํ, เย สงฺฆมุทฺทิสฺส ททนฺติ ทานํ;
สา ทกฺขิณา สงฺฆคตา ปติฏฺฐิตา, มหปฺผลา โลกวิทูน [โลกวิทูหิ (สฺยา. ก.)] วณฺณิตาฯ
[645]
[วิ. ว. 754; กถา. 798] ‘‘เอตาทิสํ ยญฺญมนุสฺสรนฺตา [ปุญฺญมนุสฺสรนฺตา (สฺยา. ก.)], เย เวทชาตา วิจรนฺติ โลเก;
วิเนยฺย มจฺเฉรมลํ สมูลํ, อนินฺทิตา สคฺคมุเปนฺติ ฐาน’’นฺติฯ
ททฺทลฺลวิมานํ [ททฺทฬฺหวิมานํ (ก.)] ฉฏฺฐํฯ
7. เปสวตีวิมานวตฺถุ
[646]
‘‘ผลิกรชตเหมชาลฉนฺนํ , วิวิธจิตฺรตลมทฺทสํ สุรมฺมํ;
พฺยมฺหํ สุนิมฺมิตํ โตรณูปปนฺนํ, รุจกุปกิณฺณมิทํ สุภํ วิมานํฯ
[647]
‘‘ภาติ จ ทส ทิสา นเภว สุริโย, สรเท ตโมนุโท สหสฺสรํสี;
ตถา ตปติมิทํ ตว วิมานํ, ชลมิว ธูมสิโข นิเส นภคฺเคฯ
[648]
‘‘มุสตีว นยนํ สเตรตาว [สเตริตาว (สฺยา. ก.)], อากาเส ฐปิตมิทํ มนุญฺญํ;
วีณามุรชสมฺมตาฬฆุฏฺฐํ, อิทฺธํ อินฺทปุรํ ยถา ตเวทํฯ
[649]
‘‘ปทุมกุมุทุปฺปลกุวลยํ, โยธิก [ยูธิก (สี.)] พนฺธุกโนชกา [โยถิกา ภณฺฑิกา โนชกา (สฺยา.)] จ สนฺติ;
สาลกุสุมิตปุปฺผิตา อโสกา, วิวิธทุมคฺคสุคนฺธเสวิตมิทํฯ
[650]
‘‘สฬลลพุชภุชก [สุชก (สี. สฺยา.)] สํยุตฺตา [สญฺญตา (สี.)], กุสกสุผุลฺลิตลตาวลมฺพินีหิ ;
มณิชาลสทิสา ยสสฺสินี, รมฺมา โปกฺขรณี อุปฏฺฐิตา เตฯ
[651]
‘‘อุทกรุหา จ เยตฺถิ ปุปฺผชาตา, ถลชา เย จ สนฺติ รุกฺขชาตา;
มานุสกามานุสฺสกา จ ทิพฺพา, สพฺเพ ตุยฺหํ นิเวสนมฺหิ ชาตาฯ
[652]
‘‘กิสฺส สํยมทมสฺสยํ วิปาโก, เกนาสิ กมฺมผเลนิธูปปนฺนา;
ยถา จ เต อธิคตมิทํ วิมานํ, ตทนุปทํ อวจาสิฬารปมฺเห’’ติ [ปขุเมติ (สี.)]ฯ
[653]
‘‘ยถา จ เม อธิคตมิทํ วิมานํ, โกญฺจมยูรจโกร [จงฺโกร (ก.)] สงฺฆจริตํ;
ทิพฺย [ทิพฺพ (สี. ปี.)] ปิลวหํสราชจิณฺณํ, ทิชการณฺฑวโกกิลาภินทิตํฯ
[654]
‘‘นานาสนฺตานกปุปฺผรุกฺขวิวิธา, ปาฏลิชมฺพุอโสกรุกฺขวนฺตํ;
ยถา จ เม อธิคตมิทํ วิมานํ, ตํ เต ปเวทยามิ [ปวทิสฺสามิ (สี.), ปเวทิสฺสามิ (ปี.)] สุโณหิ ภนฺเตฯ
[655]
‘‘มคธวรปุรตฺถิเมน , นาฬกคาโม นาม อตฺถิ ภนฺเต;
ตตฺถ อโหสิํ ปุเร สุณิสา, เปสวตีติ [เสสวตีติ (สี. สฺยา.)] ตตฺถ ชานิํสุ มมํฯ
[656]
‘‘สาหมปจิตตฺถธมฺมกุสลํ , เทวมนุสฺสปูชิตํ มหนฺตํ;
อุปติสฺสํ นิพฺพุตมปฺปเมยฺยํ, มุทิตมนา กุสุเมหิ อพฺภุกิริํ [อพฺโภกิริํ (สี. สฺยา. ปี. ก.)]ฯ
[657]
‘‘ปรมคติคตญฺจ ปูชยิตฺวา, อนฺติมเทหธรํ อิสิํ อุฬารํ;
ปหาย มานุสกํ สมุสฺสยํ, ติทสคตา อิธ มาวสามิ ฐาน’’นฺติฯ
เปสวตีวิมานํ สตฺตมํฯ
8. มลฺลิกาวิมานวตฺถุ
[658]
‘‘ปีตวตฺเถ ปีตธเช, ปีตาลงฺการภูสิเต;
ปีตนฺตราหิ วคฺคูหิ, อปิฬนฺธาว โสภสิฯ
[659]