‘‘ตุวญฺจ ภนฺเต อนุกมฺปกํ วิทุํ, อุเปจฺจ วนฺทิํ กุสลญฺจ ปุจฺฉิสํ;
ตโต เต อุจฺฉุสฺส อทาสิ ขณฺฑิกํ, ปสนฺนจิตา อตุลาย ปีติยา’’ติฯ
อุจฺฉุทายิกาวิมานํ ทุติยํฯ
3. ปลฺลงฺกวิมานวตฺถุ
[307]
‘‘ปลฺลงฺกเสฏฺเฐ มณิโสณฺณจิตฺเต, ปุปฺผาภิกิณฺเณ สยเน อุฬาเร;
ตตฺถจฺฉสิ เทวิ มหานุภาเว, อุจฺจาวจา อิทฺธิ วิกุพฺพมานาฯ
[308]
‘‘อิมา จ เต อจฺฉราโย สมนฺตโต, นจฺจนฺติ คายนฺติ ปโมทยนฺติ;
เทวิทฺธิปตฺตาสิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุญฺญํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ
[309]
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูตา, อฑฺเฒ กุเล สุณิสา อโหสิํ;
อกฺโกธนา ภตฺตุวสานุวตฺตินี, อุโปสเถ อปฺปมตฺตา อโหสิํ [อปฺปมตฺตา อุโปสเถ (สฺยา. ก.)]ฯ
[310]
‘‘มนุสฺสภูตา ทหรา อปาปิกา [ทหราส’ปาปิกา (สี.)], ปสนฺนจิตฺตา ปติมาภิราธยิํ;
ทิวา จ รตฺโต จ มนาปจารินี, อหํ ปุเร สีลวตี อโหสิํฯ
[311]
‘‘ปาณาติปาตา วิรตา อโจริกา, สํสุทฺธกายา สุจิพฺรหฺมจารินี;
อมชฺชปา โน จ มุสา อภาณิํ, สิกฺขาปเทสุ ปริปูรการินีฯ
[312]
‘‘จาตุทฺทสิํ ปญฺจทสิํ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺฐมี;
ปาฏิหาริยปกฺขญฺจ, ปสนฺนมานสา อหํ [อติปสนฺนมานสา (ก.)]ฯ
[313]
‘‘อฏฺฐงฺคุเปตํ อนุธมฺมจารินี, อุโปสถํ ปีติมนา อุปาวสิํ;
อิมญฺจ อริยํ อฏฺฐงฺควเรหุเปตํ, สมาทิยิตฺวา กุสลํ สุขุทฺรยํ;
ปติมฺหิ กลฺยาณี วสานุวตฺตินี, อโหสิํ ปุพฺเพ สุคตสฺส สาวิกาฯ
[314]
‘‘เอตาทิสํ กุสลํ ชีวโลเก, กมฺมํ กริตฺวาน วิเสสภาคินี;
กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, เทวิทฺธิปตฺตา สุคติมฺหิ อาคตาฯ
[315]
‘‘วิมานปาสาทวเร มโนรเม, ปริวาริตา อจฺฉราสงฺคเณน;
สยํปภา เทวคณา รเมนฺติ มํ, ทีฆายุกิํ เทววิมานมาคต’’นฺติ;
ปลฺลงฺกวิมานํ ตติยํฯ
4. ลตาวิมานวตฺถุ
[316]
ลตา จ สชฺชา ปวรา จ เทวตา, อจฺจิมตี [อจฺจิมุขี (สี.), อจฺฉิมตี (ปี. ก.) อจฺฉิมุตี (สฺยา.)] ราชวรสฺส สิรีมโต;
สุตา จ รญฺโญ เวสฺสวณสฺส ธีตา, ราชีมตี ธมฺมคุเณหิ โสภถฯ
[317]