‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยาฯ
[118]
‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุญฺญํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ
[119]
สา เทวตา อตฺตมนา, โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิตา;
ปญฺหํ ปุฏฺฐา วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํฯ
[120]
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูตา, สุณิสา อโหสิํ สสุรสฺส เคเหฯ
[121]
‘‘อทฺทสํ วิรชํ ภิกฺขุํ, วิปฺปสนฺนมนาวิลํ;
ตสฺส อทาสหํ ภาคํ, ปสนฺนา เสหิ ปาณิภิ;
กุมฺมาสปิณฺฑํ ทตฺวาน, โมทามิ นนฺทเน วเนฯ
[122]
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ, เตน เม อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เม โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยาฯ
[123]
‘‘อกฺขามิ เต ภิกฺขุ มหานุภาว, มนุสฺสภูตา ยมกาสิ ปุญฺญํ;
เตนมฺหิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ
ทุติยสุณิสาวิมานํ จุทฺทสมํฯ
15. อุตฺตราวิมานวตฺถุ
[124]
‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺฐสิ เทวเต;
โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกาฯ
[125]
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยาฯ
[126]
‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุญฺญํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ
[127]
สา เทวตา อตฺตมนา, โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิตา;
ปญฺหํ ปุฏฺฐา วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํฯ
[128]
‘‘อิสฺสา จ มจฺเฉรมโถ [มจฺฉริยมโถ จ (ก.)] ปฬาโส, นาโหสิ มยฺหํ ฆรมาวสนฺติยา;
อกฺโกธนา ภตฺตุวสานุวตฺตินี, อุโปสเถ นิจฺจหมปฺปมตฺตาฯ
[129]
‘‘จาตุทฺทสิํ ปญฺจทสิํ, ยา จ [ยาว (สี. อฏฺฐ., ก. อฏฺฐ.) เถรีคาถาอฏฺฐกถา ปสฺสิตพฺพา] ปกฺขสฺส อฏฺฐมี;
ปาฏิหาริยปกฺขญฺจ, อฏฺฐงฺคสุสมาคตํฯ
[130]
‘‘อุโปสถํ อุปวสิสฺสํ, สทา สีเลสุ สํวุตา;
สญฺญมา สํวิภาคา จ, วิมานํ อาวสามหํ [อาวสามิมํ (สี. อฏฺฐ., ก.) ปรโต ปน สพฺพตฺถปิ ‘‘อาวสามหํ’’ อิจฺเจว ทิสฺสติ]ฯ
[131]
‘‘ปาณาติปาตา วิรตา, มุสาวาทา จ สญฺญตา;
เถยฺยา จ อติจารา จ, มชฺชปานา จ อารกา [อารตา (?)]ฯ
[132]
‘‘ปญฺจสิกฺขาปเท รตา, อริยสจฺจาน โกวิทา;
อุปาสิกา จกฺขุมโต, โคตมสฺส ยสสฺสิโนฯ
[133]
‘‘สาหํ สเกน สีเลน, ยสสา จ ยสสฺสินี;
อนุโภมิ สกํ ปุญฺญํ, สุขิตา จมฺหินามยาฯ
[134]
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ, เตน เม อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เม โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยาฯ
[135]
‘‘อกฺขามิ เต ภิกฺขุ มหานุภาว, มนุสฺสภูตา ยมหํ อกาสิํ;
เตนมฺหิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตีติฯ
[136] ‘‘มม จ, ภนฺเต, วจเนน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺเทยฺยาสิ – ‘อุตฺตรา นาม, ภนฺเต, อุปาสิกา ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’ติฯ อนจฺฉริยํ โข ปเนตํ, ภนฺเต, ยํ มํ ภควา อญฺญตรสฺมิํ สามญฺญผเล พฺยากเรยฺย [พฺยากเรยฺยาติ (?)], ตํ ภควา สกทาคามิผเล พฺยากาสี’’ติฯ
อุตฺตราวิมานํ ปนฺนรสมํฯ
16. สิริมาวิมานวตฺถุ
[137]
‘‘ยุตฺตา จ เต ปรมอลงฺกตา หยา, อโธมุขา อฆสิคมา พลี ชวา;
อภินิมฺมิตา ปญฺจรถาสตา จ เต, อนฺเวนฺติ ตํ สารถิโจทิตา หยาฯ
[138]
‘‘สา ติฏฺฐสิ รถวเร อลงฺกตา, โอภาสยํ ชลมิว โชติ ปาวโก;
ปุจฺฉามิ ตํ วรตนุ [วรจารุ (กตฺถจิ)] อโนมทสฺสเน, กสฺมา นุ กายา อนธิวรํ อุปาคมิฯ
[139]
‘‘กามคฺคปตฺตานํ ยมาหุนุตฺตรํ [… นุตฺตรา (ก.), อนุตฺตรา (สฺยา.)], นิมฺมาย นิมฺมาย รมนฺติ เทวตา;
ตสฺมา กายา อจฺฉรา กามวณฺณินี, อิธาคตา อนธิวรํ นมสฺสิตุํฯ
[140]
‘‘กิํ ตฺวํ ปุเร สุจริตมาจรีธ [สุจริตํ อจาริธ (ปี.)],
เกนจฺฉสิ ตฺวํ อมิตยสา สุเขธิตา;
อิทฺธี จ เต อนธิวรา วิหงฺคมา,
วณฺโณ จ เต ทส ทิสา วิโรจติฯ
[141]
‘‘เทเวหิ ตฺวํ ปริวุตา สกฺกตา จสิ,
กุโต จุตา สุคติคตาสิ เทวเต;
กสฺส วา ตฺวํ วจนกรานุสาสนิํ,
อาจิกฺข เม ตฺวํ ยทิ พุทฺธสาวิกา’’ติฯ
[142]