‘‘น มาสิ ทานํ น จ มตฺถิ ทาตุํ, ปเร จ โข ตตฺถ สมาทเปสิํ;
ปูเชถ นํ ปูชนียสฺส [ปูชเนยฺยสฺส (สฺยา. ก.)] ธาตุํ, เอวํ กิร สคฺคมิโต คมิสฺสถฯ
[1206]
‘‘ตเทว กมฺมํ กุสลํ กตํ มยา, สุขญฺจ ทิพฺพํ อนุโภมิ อตฺตนา;
โมทามหํ ติทสคณสฺส มชฺเฌ, น ตสฺส ปุญฺญสฺส ขยมฺปิ อชฺฌค’’นฺติฯ
อเนกวณฺณวิมานํ อฏฺฐมํฯ
9. มฏฺฐกุณฺฑลีวิมานวตฺถุ
[1207]
[เป. ว. 186] ‘‘อลงฺกโต มฏฺฐกุณฺฑลี [มฏฺฏกุณฺฑลี (สี.)], มาลธารี หริจนฺทนุสฺสโท;
พาหา ปคฺคยฺห กนฺทสิ, วนมชฺเฌ กิํ ทุกฺขิโต ตุว’’นฺติฯ
[1208]
‘‘โสวณฺณมโย ปภสฺสโร, อุปฺปนฺโน รถปญฺชโร มม;
ตสฺส จกฺกยุคํ น วินฺทามิ, เตน ทุกฺเขน ชหามิ [ชหิสฺสํ (สี.), ชหิสฺสามิ (สฺยา. ปี.)] ชีวิต’’นฺติฯ
[1209]
‘‘โสวณฺณมยํ มณิมยํ, โลหิตกมยํ [โลหิตงฺคมยํ (สฺยา.), โลหิตงฺกมยํ (สี.), โลหมยํ (กตฺถจิ)] อถ รูปิยมยํ;
อาจิกฺข [อาจิกฺขถ (ก.)] เม ภทฺทมาณว, จกฺกยุคํ ปฏิปาทยามิ เต’’ติฯ
[1210]
โส มาณโว ตสฺส ปาวทิ, ‘‘จนฺทิมสูริยา อุภเยตฺถ ทิสฺสเร;
โสวณฺณมโย รโถ มม, เตน จกฺกยุเคน โสภตี’’ติฯ
[1211]
‘‘พาโล โข ตฺวํ อสิ มาณว, โย ตฺวํ ปตฺถยเส อปตฺถิยํ;
มญฺญามิ ตุวํ มริสฺสสิ, น หิ ตฺวํ ลจฺฉสิ จนฺทิมสูริเย’’ติฯ
[1212]
‘‘คมนาคมนมฺปิ ทิสฺสติ, วณฺณธาตุ อุภยตฺถ วีถิยา;
เปโต [เปโต ปน (สี. สฺยา.)] กาลกโต น ทิสฺสติ, โก นิธ กนฺทตํ พาลฺยตโร’’ติฯ
[1213]
‘‘สจฺจํ โข วเทสิ มาณว, อหเมว กนฺทตํ พาลฺยตโร;
จนฺทํ วิย ทารโก รุทํ, เปตํ กาลกตาภิปตฺถยิ’’นฺติฯ
[1214]
‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;
วารินา วิย โอสิญฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํฯ
[1215]
‘‘อพฺพหี [อพฺพูฬฺห (ปี.), อพฺพูฬฺหํ (สฺยา. ก.)] วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;
โย เม โสกปเรตสฺส, ปุตฺตโสกํ อปานุทิฯ
[1216]
‘‘สฺวาหํ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต;
น โสจามิ น โรทามิ, วต สุตฺวาน มาณวาติฯ
[1217]
‘‘เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ [อาทุ (สี. สฺยา.)] สกฺโก ปุรินฺทโท;
โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุตฺโต, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติฯ
[1218]
‘‘ยญฺจ [ยํ (ก.)] กนฺทสิ ยญฺจ โรทสิ, ปุตฺตํ อาฬาหเน สยํ ทหิตฺวา;
สฺวาหํ กุสลํ กริตฺวา กมฺมํ, ติทสานํ สหพฺยตํ คโต’’ติ [ปตฺโตติ (สี. สฺยา. ปี.)]ฯ
[1219]
‘‘อปฺปํ วา พหุํ วา นาทฺทสาม, ทานํ ททนฺตสฺส สเก อคาเร;
อุโปสถกมฺมํ วา [อุโปสถกมฺมญฺจ (ก.)] ตาทิสํ, เกน กมฺเมน คโตสิ เทวโลก’’นฺติฯ
[1220]
‘‘อาพาธิโกหํ ทุกฺขิโต คิลาโน, อาตุรรูโปมฺหิ สเก นิเวสเน;
พุทฺธํ วิคตรชํ วิติณฺณกงฺขํ, อทฺทกฺขิํ สุคตํ อโนมปญฺญํฯ
[1221 .
‘‘สฺวาหํ มุทิตมโน ปสนฺนจิตฺโต, อญฺชลิํ อกริํ ตถาคตสฺส;
ตาหํ กุสลํ กริตฺวาน กมฺมํ, ติทสานํ สหพฺยตํ คโต’’ติฯ
[1222]
‘‘อจฺฉริยํ วต อพฺภุตํ วต, อญฺชลิกมฺมสฺส อยมีทิโส วิปาโก;
อหมฺปิ มุทิตมโน ปสนฺนจิตฺโต, อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ วชามี’’ติฯ
[1223]
‘‘อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ วชาหิ, ธมฺมญฺจ สงฺฆญฺจ ปสนฺนจิตฺโต;
ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปญฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยสฺสุฯ
[1224]
‘‘ปาณาติปาตา วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;
อมชฺชโป มา จ มุสา ภณาหิ, สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุฏฺโฐ’’ติฯ
[1225]
‘‘อตฺถกาโมสิ เม ยกฺข, หิตกาโมสิ เทวเต;
กโรมิ ตุยฺหํ วจนํ, ตฺวํสิ อาจริโย มมาติฯ
[1226]
‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมญฺจาปิ อนุตฺตรํ;
สงฺฆญฺจ นรเทวสฺส, คจฺฉามิ สรณํ อหํฯ
[1227]
‘‘ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;
อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ, สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโฐ’’ติฯ
มฏฺฐกุณฺฑลีวิมานํ นวมํฯ
10. เสรีสกวิมานวตฺถุ
[1228]
[เป. ว. 604] สุโณถ ยกฺขสฺส จ วาณิชาน จ, สมาคโม ยตฺถ ตทา อโหสิ;
ยถา กถํ อิตริตเรน จาปิ, สุภาสิตํ ตญฺจ สุณาถ สพฺเพฯ
[1229]
‘‘โย โส อหุ ราชา ปายาสิ นาม [นาโม (สี.)], ภุมฺมานํ สหพฺยคโต ยสสฺสี;
โส โมทมาโนว สเก วิมาเน, อมานุโส มานุเส อชฺฌภาสีติฯ
[1230]
‘‘วงฺเก อรญฺเญ อมนุสฺสฏฺฐาเน, กนฺตาเร อปฺโปทเก อปฺปภกฺเข;
สุทุคฺคเม วณฺณุปถสฺส มชฺเฌ, วงฺกํ ภยา [ธงฺกํภยา (ก.)] นฏฺฐมนา มนุสฺสาฯ
[1231]
‘‘นยิธ ผลา มูลมยา จ สนฺติ, อุปาทานํ นตฺถิ กุโตธ ภกฺโข;
อญฺญตฺร ปํสูหิ จ วาลุกาหิ จ, ตตาหิ อุณฺหาหิ จ ทารุณาหิ จฯ
[1232]
‘‘อุชฺชงฺคลํ ตตฺตมิวํ กปาลํ, อนายสํ ปรโลเกน ตุลฺยํ;
ลุทฺทานมาวาสมิทํ ปุราณํ, ภูมิปฺปเทโส อภิสตฺตรูโปฯ
[1233]