ติฏฺฐํ จรํ นิสินฺโน ว [วา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], สยาโน ยาวตาสฺส วิตมิทฺโธ [วิคตมิทฺโท (พหูสุ)];
เอตํ สติํ อธิฏฺเฐยฺย, พฺรหฺมเมตํ วิหารมิธมาหุฯ
[152]
ทิฏฺฐิญฺจ อนุปคฺคมฺม, สีลวา ทสฺสเนน สมฺปนฺโน;
กาเมสุ วินย [วิเนยฺย (สี. สฺยา. ปี.)] เคธํ, น หิ ชาตุคฺคพฺภเสยฺย ปุนเรตีติฯ
เมตฺตสุตฺตํ อฏฺฐมํ นิฏฺฐิตํฯ
9. เหมวตสุตฺตํ
[153]
‘‘อชฺช ปนฺนรโส อุโปสโถ, (อิติ สาตาคิโร ยกฺโข)
ทิพฺพา [ทิพฺยา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] รตฺติ อุปฏฺฐิตา;
อโนมนามํ สตฺถารํ, หนฺท ปสฺสาม โคตมํ’’ฯ
[154]
‘‘กจฺจิ มโน สุปณิหิโต, (อิติ เหมวโต ยกฺโข)
สพฺพภูเตสุ ตาทิโน;
กจฺจิ อิฏฺเฐ อนิฏฺเฐ จ, สงฺกปฺปสฺส วสีกตา’’ฯ
[155]
‘‘มโน จสฺส สุปณิหิโต, (อิติ สาตาคิโร ยกฺโข)
สพฺพภูเตสุ ตาทิโน;
อโถ อิฏฺเฐ อนิฏฺเฐ จ, สงฺกปฺปสฺส วสีกตา’’ฯ
[156]
‘‘กจฺจิ อทินฺนํ นาทิยติ, (อิติ เหมวโต ยกฺโข)
กจฺจิ ปาเณสุ สญฺญโต;
กจฺจิ อารา ปมาทมฺหา, กจฺจิ ฌานํ น ริญฺจติ’’ฯ
[157]