เมนู

5. อุปาสกสุตฺตํ

[15] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร อิจฺฉานงฺคลโก อุปาสโก สาวตฺถิํ อนุปฺปตฺโต โหติ เกนจิเทว กรณีเยนฯ อถ โข โส อุปาสโก สาวตฺถิยํ ตํ กรณียํ ตีเรตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ตํ อุปาสกํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘จิรสฺสํ โข ตฺวํ, อุปาสก, อิมํ ปริยายมกาสิ ยทิทํ อิธาคมนายา’’ติฯ

‘‘จิรปฏิกาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุกาโม, อปิ จาหํ เกหิจิ เกหิจิ กิจฺจกรณีเยหิ พฺยาวโฏฯ เอวาหํ นาสกฺขิํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติฯ

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘สุขํ วต ตสฺส น โหติ กิญฺจิ,

สงฺขาตธมฺมสฺส พหุสฺสุตสฺส;

สกิญฺจนํ ปสฺส วิหญฺญมานํ,

ชโน ชนสฺมิํ ปฏิพนฺธรูโป’’ติฯ ปญฺจมํ;

6. คพฺภินีสุตฺตํ

[16] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ปริพฺพาชกสฺส ทหรมาณวิกา ปชาปติ โหติ คพฺภินี อุปวิชญฺญาฯ อถ โข สา ปริพฺพาชิกา ตํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, เตลํ อาหร, ยํ เม วิชาตาย ภวิสฺสตี’’ติฯ

เอวํ วุตฺเต, โส ปริพฺพาชโก ตํ ปริพฺพาชิกํ เอตทโวจ – ‘‘กุโต ปนาหํ, โภติ [โภติยา (สฺยา. ปี. ก.)], เตลํ อาหรามี’’ติ? ทุติยมฺปิ โข สา ปริพฺพาชิกา ตํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, เตลํ อาหร, ยํ เม วิชาตาย ภวิสฺสตี’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข โส ปริพฺพาชิโก ตํ ปริพฺพาชิกํ เอตทโวจ – ‘‘กุโต ปนาหํ, โภติ, เตลํ อาหรามี’’ติ? ตติยมฺปิ โข สา ปริพฺพาชิกา ตํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, เตลํ อาหร, ยํ เม วิชาตาย ภวิสฺสตี’’ติฯ

เตน โข ปน สมเยน รญฺโญ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส โกฏฺฐาคาเร สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา สปฺปิสฺส วา เตลสฺส วา ยาวทตฺถํ ปาตุํ ทียติ [ทิยฺยติ (สี. ก.)], โน นีหริตุํฯ

อถ โข ตสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘รญฺโญ โข ปน ปเสนทิสฺส โกสลสฺส โกฏฺฐาคาเร สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา สปฺปิสฺส วา เตลสฺส วา ยาวทตฺถํ ปาตุํ ทียติ, โน นีหริตุํฯ ยํนูนาหํ รญฺโญ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส โกฏฺฐาคารํ คนฺตฺวา เตลสฺส ยาวทตฺถํ ปิวิตฺวา ฆรํ อาคนฺตฺวา อุจฺฉทฺทิตฺวาน [อุคฺคิริตฺวาน (สี. สฺยา. ปี.), อุจฺฉทิตฺวา (สี. สฺยา. อฏฺฐ.), อุจฺฉฑฺฑิตฺวาน (ก.)] ทเทยฺยํ, ยํ อิมิสฺสา วิชาตาย ภวิสฺสตี’’ติฯ

อถ โข โส ปริพฺพาชโก รญฺโญ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส โกฏฺฐาคารํ คนฺตฺวา เตลสฺส ยาวทตฺถํ ปิวิตฺวา ฆรํ อาคนฺตฺวา เนว สกฺโกติ อุทฺธํ กาตุํ, น ปน อโธฯ โส ทุกฺขาหิ ติพฺพาหิ [ติปฺปาหิ (สฺยา.)] ขราหิ กฏุกาหิ เวทนาหิ ผุฏฺโฐ อาวฏฺฏติ ปริวฏฺฏติฯ

อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถิํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ อทฺทสา โข ภควา ตํ ปริพฺพาชกํ ทุกฺขาหิ ติพฺพาหิ ขราหิ กฏุกาหิ เวทนาหิ ผุฏฺฐํ อาวฏฺฏมานํ ปริวฏฺฏมานํฯ

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘สุขิโน วต เย อกิญฺจนา,

เวทคุโน หิ ชนา อกิญฺจนา;

สกิญฺจนํ ปสฺส วิหญฺญมานํ,

ชโน ชนสฺมิํ ปฏิพนฺธจิตฺโต’’ [ปฏิพทฺธจิตฺโต (สฺยา.), ปฏิพนฺธรุโป (?)] ติฯ ฉฏฺฐํ;

7. เอกปุตฺตกสุตฺตํ

[17] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส อุปาสกสฺส เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโป กาลงฺกโต โหติฯ