เมนู

4. สกฺการสุตฺตํ

[14] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน ภควา สกฺกโต โหติ ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต, ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํฯ ภิกฺขุสงฺโฆปิ สกฺกโต โหติ ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต, ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํฯ อญฺญติตฺถิยา ปน ปริพฺพาชกา อสกฺกตา โหนฺติ อครุกตา อมานิตา [น อปจิตา (สฺยา. ปี.)] อปูชิตา อนปจิตา, น ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํฯ อถ โข เต อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา ภควโต สกฺการํ อสหมานา ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ คาเม จ อรญฺเญ จ ภิกฺขู ทิสฺวา อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ โรเสนฺติ วิเหเสนฺติฯ

อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘เอตรหิ, ภนฺเต, ภควา สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต, ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํฯ ภิกฺขุสงฺโฆปิ สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต, ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํฯ อญฺญติตฺถิยา ปน ปริพฺพาชกา อสกฺกตา อครุกตา อมานิตา อปูชิตา อนปจิตา, น ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํฯ อถ โข เต, ภนฺเต, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา ภควโต สกฺการํ อสหมานา ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ คาเม จ อรญฺเญ จ ภิกฺขู ทิสฺวา อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ โรเสนฺติ วิเหสนฺตี’’ติฯ

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘คาเม อรญฺเญ สุขทุกฺขผุฏฺโฐ,

เนวตฺตโต โน ปรโต ทเหถ;

ผุสนฺติ ผสฺสา อุปธิํ ปฏิจฺจ,

นิรูปธิํ เกน ผุเสยฺยุ ผสฺสา’’ติฯ จตุตฺถํ;

5. อุปาสกสุตฺตํ

[15] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร อิจฺฉานงฺคลโก อุปาสโก สาวตฺถิํ อนุปฺปตฺโต โหติ เกนจิเทว กรณีเยนฯ อถ โข โส อุปาสโก สาวตฺถิยํ ตํ กรณียํ ตีเรตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ตํ อุปาสกํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘จิรสฺสํ โข ตฺวํ, อุปาสก, อิมํ ปริยายมกาสิ ยทิทํ อิธาคมนายา’’ติฯ

‘‘จิรปฏิกาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุกาโม, อปิ จาหํ เกหิจิ เกหิจิ กิจฺจกรณีเยหิ พฺยาวโฏฯ เอวาหํ นาสกฺขิํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติฯ

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘สุขํ วต ตสฺส น โหติ กิญฺจิ,

สงฺขาตธมฺมสฺส พหุสฺสุตสฺส;

สกิญฺจนํ ปสฺส วิหญฺญมานํ,

ชโน ชนสฺมิํ ปฏิพนฺธรูโป’’ติฯ ปญฺจมํ;

6. คพฺภินีสุตฺตํ

[16] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ปริพฺพาชกสฺส ทหรมาณวิกา ปชาปติ โหติ คพฺภินี อุปวิชญฺญาฯ อถ โข สา ปริพฺพาชิกา ตํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, เตลํ อาหร, ยํ เม วิชาตาย ภวิสฺสตี’’ติฯ

เอวํ วุตฺเต, โส ปริพฺพาชโก ตํ ปริพฺพาชิกํ เอตทโวจ – ‘‘กุโต ปนาหํ, โภติ [โภติยา (สฺยา. ปี. ก.)], เตลํ อาหรามี’’ติ? ทุติยมฺปิ โข สา ปริพฺพาชิกา ตํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, เตลํ อาหร, ยํ เม วิชาตาย ภวิสฺสตี’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข โส ปริพฺพาชิโก ตํ ปริพฺพาชิกํ เอตทโวจ – ‘‘กุโต ปนาหํ, โภติ, เตลํ อาหรามี’’ติ? ตติยมฺปิ โข สา ปริพฺพาชิกา ตํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, เตลํ อาหร, ยํ เม วิชาตาย ภวิสฺสตี’’ติฯ