เมนู

217. ติจีวรานุชานนา

[346] อถ โข ภควา ราชคเห ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน เวสาลี เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อทฺทส โข ภควา อนฺตรา จ ราชคหํ อนฺตรา จ เวสาลิํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน สมฺพหุเล ภิกฺขู จีวเรหิ อุพฺภณฺฑิเต [อุพฺภณฺฑีกเต (สฺยา.)] สีเสปิ จีวรภิสิํ กริตฺวา ขนฺเธปิ จีวรภิสิํ กริตฺวา กฏิยาปิ จีวรภิสิํ กริตฺวา อาคจฺฉนฺเต, ทิสฺวาน ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อติลหุํ โข อิเม โมฆปุริสา จีวเร พาหุลฺลาย อาวตฺตา ฯ ยํนูนาหํ ภิกฺขูนํ จีวเร สีมํ พนฺเธยฺยํ, มริยาทํ ฐเปยฺย’’นฺติฯ อถ โข ภควา อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน เวสาลี ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ โคตมเก เจติเยฯ เตน โข ปน สมเยน ภควา สีตาสุ เหมนฺติกาสุ รตฺตีสุ อนฺตรฏฺฐกาสุ หิมปาตสมเย รตฺติํ อชฺโฌกาเส เอกจีวโร นิสีทิฯ น ภควนฺตํ สีตํ อโหสิฯ นิกฺขนฺเต ปฐเม ยาเม สีตํ ภควนฺตํ อโหสิฯ ทุติยํ ภควา จีวรํ ปารุปิฯ น ภควนฺตํ สีตํ อโหสิฯ นิกฺขนฺเต มชฺฌิเม ยาเม สีตํ ภควนฺตํ อโหสิฯ ตติยํ ภควา จีวรํ ปารุปิฯ น ภควนฺตํ สีตํ อโหสิฯ นิกฺขนฺเต ปจฺฉิเม ยาเม อุทฺธสฺเต อรุเณ นนฺทิมุขิยา รตฺติยา สีตํ ภควนฺตํ อโหสิฯ จตุตฺถํ ภควา จีวรํ ปารุปิฯ น ภควนฺตํ สีตํ อโหสิฯ อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘เยปิ โข เต กุลปุตฺตา อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย สีตาลุกา สีตภีรุกา เตปิ สกฺโกนฺติ ติจีวเรน ยาเปตุํฯ ยํนูนาหํ ภิกฺขูนํ จีวเร สีมํ พนฺเธยฺยํ, มริยาทํ ฐเปยฺยํ, ติจีวรํ อนุชาเนยฺย’’นฺติฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, อนฺตรา จ ราชคหํ อนฺตรา จ เวสาลิํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน อทฺทสํ สมฺพหุเล ภิกฺขู จีวเรหิ อุพฺภณฺฑิเต สีเสปิ จีวรภิสิํ กริตฺวา ขนฺเธปิ จีวรภิสิํ กริตฺวา กฏิยาปิ จีวรภิสิํ กริตฺวา อาคจฺฉนฺเต, ทิสฺวาน เม เอตทโหสิ – ‘อติลหุํ โข อิเม โมฆปุริสา จีวเร พาหุลฺลาย อาวตฺตาฯ ยํนูนาหํ ภิกฺขูนํ จีวเร สีมํ พนฺเธยฺยํ, มริยาทํ ฐเปยฺย’นฺติฯ อิธาหํ, ภิกฺขเว, สีตาสุ เหมนฺติกาสุ รตฺตีสุ อนฺตรฏฺฐกาสุ หิมปาตสมเย รตฺติํ อชฺโฌกาเส เอกจีวโร นิสีทิํฯ น มํ สีตํ อโหสิฯ นิกฺขนฺเต ปฐเม ยาเม สีตํ มํ อโหสิฯ ทุติยาหํ จีวรํ ปารุปิํฯ น มํ สีตํ อโหสิฯ นิกฺขนฺเต มชฺฌิเม ยาเม สีตํ มํ อโหสิฯ ตติยาหํ จีวรํ ปารุปิํฯ น มํ สีตํ อโหสิฯ นิกฺขนฺเต ปจฺฉิเม ยาเม อุทฺธสฺเต อรุเณ นนฺทิมุขิยา รตฺติยา สีตํ มํ อโหสิฯ จตุตฺถาหํ จีวรํ ปารุปิํฯ น มํ สีตํ อโหสิฯ ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘‘เยปิ โข เต กุลปุตฺตา อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย สีตาลุกา สีตภีรุกา เตปิ สกฺโกนฺติ ติจีวเรน ยาเปตุํฯ ยํนูนาหํ ภิกฺขูนํ จีวเร สีมํ พนฺเธยฺยํ, มริยาทํ ฐเปยฺยํ , ติจีวรํ อนุชาเนยฺย’นฺติฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติจีวรํ – ทิคุณํ สงฺฆาฏิํ, เอกจฺจิยํ อุตฺตราสงฺคํ, เอกจฺจิยํ อนฺตรวาสก’’นฺติฯ

ติจีวรานุชานนา นิฏฺฐิตาฯ

218. อติเรกจีวรกถา

[347] [ปารา. 461] เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภควตา ติจีวรํ อนุญฺญาตนฺติ อญฺเญเนว ติจีวเรน คามํ ปวิสนฺติ, อญฺเญน ติจีวเรน อาราเม อจฺฉนฺติ, อญฺเญน ติจีวเรน นหานํ โอตรนฺติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อติเรกจีวรํ ธาเรสฺสนฺตี’’ติฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพํฯ โย ธาเรยฺย, ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’’ติฯ

[ปารา. 461] เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต อานนฺทสฺส อติเรกจีวรํ อุปฺปนฺนํ โหติฯ อายสฺมา จ อานนฺโท ตํ จีวรํ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทาตุกาโม โหติฯ อายสฺมา จ สาริปุตฺโต สาเกเต วิหรติฯ อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ ‘น อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’นฺติฯ